ข้อมูลเที่ยวประเทศเดนมาร์ก : โคเปนเฮเกน (Kobenhavn)
โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก: København เคเปนฮาว์น)
เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก จำนวนประชากรในมีเมืองมีทั้งหมดประมาณ 500,000 คนและ เขตนครหลวงหรือเมโทรทั้งหมดประมาณ 1,200,000 คนเศษกรุงโคเปนเฮเกนเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารประเทศ รัฐสภา รัฐบาลและเป็นที่ตั้งพระราชวังหลวงในพระราชวงศ์เดนมาร์ก โคเปนเฮเกนถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรป ก่อตั้งมาราว ๆ คริสต์ศตวรรษที่ 10 และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวียได้ยินชื่อประเทศเดนมาร์กมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กๆ จากข้างกล่องนมที่ผลิตจากฟาร์มโคนมชื่อดัง ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะได้มีโอกาสไปเยือนดินแดนแห่งเงือกน้อยและโคนมแห่งนี้เม็ดฝนใสๆ ตกกระทบกระจกหน้ารถดังเปาะแปะ...เปาะแปะ แม้จะมีสายฝนตกลงมาเบาๆ พร้อมๆ กับความหนาวเย็น แต่ก็ไม่อาจทัดทานใจและ 2 ขา ที่รีบกระโดดลงจากรถ พุ่งตรงไปยังนางเงือกสาวที่นั่งรอให้ผู้คนมาเก็บภาพประทับใจ รวมถึงเราด้วยเงือกน้อยบริเวณชายหาดชานกรุงโคเปนเฮเกน ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง เธอชื่อ แอเรียล เป็นเจ้าหญิงเงือกน้อยแห่งท้องทะเลที่แสนดื้อรั้น ช่างฝัน และมักฝันถึงชีวิตบนโลกมนุษย์ เรื่องราวของเธอปรากฏอยู่ในเทพนิยายอันลือลั่นของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) นักเล่านิทานชื่อก้องของเดนมาร์กแอเรียล คือ ตัวละครสำคัญที่ทำให้กรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ได้รับฉายาอีกอย่างหนึ่ง นอกจากสวรรค์แห่งเมืองท่า ว่า เป็นเมืองแห่งความรักในเทพนิยายนอกจากจะนั่งอวดโฉมอยู่ริมชายหาดแล้ว แอเรียล ยังปรากฏตัวในโปสต์การ์ดและของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็น แม็กเน็ต แก้วน้ำ พวงกุญแจ ทั่วกรุงโคเปนเฮเกนโคเปนเฮเกน ถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรป ก่อตั้งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 เป็น เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจเราโบกมือลา แอเรียล เงือกสาว เดินทางมุ่งหน้าสู่ พระราชวังอมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace) ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของบรรดาเหล่าพระราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก
พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ด้านหน้าของพระราชวังจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวัน เหมือนกับพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมในอังกฤษ อาคารของพระราชวังตั้งต่อกันคล้ายเป็นวงกลม บริเวณตรงกลางเป็นลานกว้างรถ แล่นผ่านไปมาได้อย่างสบาย น่าแปลกอีกอย่างคือ พระราชวังแห่งนี้ไม่มีรั้วกั้นจัตุรัสด้านหน้าของ พระราชวังอมาเลียนบอร์ก มีพระรูปของ กษัตริย์เดนมาร์กทรงม้า ดูสง่างามมาก อีกจุดหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือ น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน (Gefion Fountain) ลักษณะเป็นน้ำพุรูปปั้นผู้หญิงกำลังถือแส้ไล่วัว 4 ตัว มีตำนานเล่าขานกันว่า เทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางกอบกู้ชาติ พระราชินีเกฟิออน จึงแปลงร่างลูกชาย 4 คนให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ จนเกิดเป็นประเทศเดนมาร์กและก็อย่างที่บอก โคเปนเฮเกนนอกจากจะเป็นเมืองหลวงแล้ว ด้วยภูมิประเทศของเมืองที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลบริเวณชายฝั่งตะวันออกของเกาะ ซีแลนด์ ที่นี่จึงถือเป็น เมืองท่า สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ตามความหมายชื่อของเมือง โคเปนเฮเกน ที่แปลว่า อ่าวพ่อค้า รอบกรุงโคเปนเฮเกนมีท่าเรือทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่หลายท่า น่าเสียดายที่เวลาไม่พอ เราจึงไม่มีโอกาสล่องเรือชมทัศนียภาพของกรุงโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นอีกโปรแกรมที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยพลาดจากท่าเรือเรามุ่งหน้าสู่ถนนคนเดิน ซึ่งอยู่ไม่ ไกลจากท่าเรือ ใช้เวลาเดินแค่ 3 นาทีก็ถึง เราเริ่มต้นการเดินถนน สัมผัสวิถีชีวิตอันหลากหลายผสมผสานกัน บนถนนมีทั้งศิลปินอิสระและนักมายากล ซึ่งดู เหมือนจะกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งของยุโรปและสแกนดิเนเวีย โดยเฉพาะบริเวณหน้าศาลากลางกรุงโคเปนเฮเกน บรรดาศิลปินและนักมายากล ต่างพากันมาโชว์ลีลาและแสดงผลงานให้กับผู้ที่สัญจรไปมา รวมไปถึงดนตรีเปิดหมวก และวงดนตรีอินดี้ริมบาทวิถีด้วย
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของที่นี่ก็คือ ทางเท้าและบาทวิถี ซึ่งรวมถึงทางจักรยานด้วย เพราะถ้าเราขี้เกียจเดินหรือเดินไม่ไหวก็สามารถเช่าจักรยานขี่ชมเมืองได้ สอบถามได้ความว่า ทางเท้าในโคเปนเฮเกนเป็นทางเท้าที่เก่าแก่ที่สุด และยาวที่สุดในโลก
|
อีกอย่างที่ต้องระวัง คือ มิจฉาชีพ แน่นอนที่สุดในที่ที่คนไปรวมกันอยู่อย่างแออัด มันคือสำนักงานดีๆของเหล่านักล้วง ที่จะมีเสียงเตือนมาตลอดว่าให้ระวัง...ระวังจะด้วยเพราะมีคนไทยเดินทางไปเยือนโคเปนเฮเกนกันมากหรืออย่างไรไม่ทราบแน่ ที่นี่เราสามารถแลกเงินบาทเป็นเงินโคลนได้เลย ไม่ต้องแลกเป็นยูโรหรือดอลลาร์ก่อนเหมือนประเทศอื่นๆในแถบยุโรป เงินไทย 100 บาท แลกเงินโคลนของเดนมาร์กได้ประมาณ 20 โคลน คนที่มีเงินไทยติดตัวไปย่อมไม่มีอุปสรรคในการจับจ่ายตลอดทางของถนนคนเดินความยาวราว 2 กิโลเมตร มีสินค้าให้เลือกหลากหลายชนิด ทั้งสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์ บางร้านประกาศ sale หรือลดราคาถึง 20-70% แต่สำหรับคนไทยกระเป๋าเล็กอย่างเราๆก็ยังถือว่าแพงอยู่ดี เลยใช้วิธี window shop หรือเดินทอดทัศนาไปตามเรื่องตามราวแต่เพียงอย่างเดียวยิ่งพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน บรรยากาศที่ถนนคนเดินแห่งนี้ยิ่งเต็มไปด้วยความคึกคักและสีสัน ทั้งคนในเมืองที่ออกมาเดินเล่นและนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศ อีกส่วนหนึ่งก็เป็นนักช็อปตัวยงที่มาจดจ้องซื้อของลดราคาอย่างสนุกจุใจ นอกจากของแบรนด์เนมแล้ว ยังมีของที่ระลึกประเภทภาพสัญลักษณ์เดนมาร์กอย่าง ลิตเติ้ล เมอร์เมด ภาพพระราชวังอมาเลียนบอร์ก รูปเรือที่อยู่ ที่ท่าเรือ ทำเป็นแม็กเน็ตติดตู้เย็นบ้าง พวงกุญแจบ้าง เช่นเดียวกับโปสต์การ์ดหลากหลายรูป ราคาเริ่มจาก 10 โคลน หรือประมาณ 50 บาท
Credit: https://www.thairath.co.th/content/277467