ข้อมูลเที่ยวจีน : สุสาน 13 กษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง
สุสาน 13 กษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง
การสร้างสุสานกษัตริย์ของชาวจีน นับเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า สะท้อนศิลปวัฒนธรรมเก่าแก่ของชาติ โดยนิยมแบ่งเป็น 2 ส่วนสำคัญ คือ ส่วนบนดิน และใต้ดิน ซึ่งมีพลังหยินหยางเกื้อกูลค้ำจุลกัน คือ หลังอิงขุนเขา หันหน้าสู่น้ำ สุสาน13กษัตริย์แห่งราชวงศ์หมิง หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า"สือ ซานหลิง"เป็นสุสานของกษัตริย์อีก 13 พระองศ์ของราชวงศ์หมิง ตั้งอยู่ทางชานเมืองด้านตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง ห่างจากตัวเมือง 50 กว่ากิโลเมตร ซึ่งได้ตั้งกระจัดกระจายอยู่ในเขตเขาเทียนโซ่วอำเภอชางผิงแห่งกรุง ปักกิ่งบนพื้นที่ราบลุ่มที่มีเนื้อที่ 40 ตารางกิโลเมตรและได้ใช้เวลาใน การก่อสร้างยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 200 ปี ตั้งแต่เริ่มทำการก่อสร้างในปี ค.ศ.1409 จนถึงราชวงศ์หมิงสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1644
สุสานแห่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและน่าสนใจที่สุดคือสุสาน "ฉางหลิง" สุสานฉางหลิงเป็นสุสานของจักรพรรดิ "จูตี้" ซึ่งครองราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1402 -1424 ในสมัยราชวงศ์หมิง สิ่งก่อสร้างสําคัญในบริเวณสุสานนี้มีพระโรงหลิงเอินซึ่งใหญ่โตเท่ากับพระที่นั่งไท่เหอในพระราชวังโบราณ แต่ที่เด่นกว่าพระที่นั่งไท่เหอก็คือ เสา ขื่อ อกไก่ ระแนง ตลอดจนชายคาของพระที่นั่งล้วนสร้างด้วยไม้ที่มีชื่อว่า "หนานมู่" ซึ่งมีเนื้อไม้ที่แข็งละเอียดและมีกลิ่นหอม เสาขนาดใหญ่ 32 ต้นในพระโรงหลิงเอินใช้ไม้หนานมู่ทั้งนั้น สุสานติ้งหลิงซึ่งได้ขุดแล้วและเรียกกันว่า "วังใต้ดิน" นั้นประกอบด้วยห้องสูงใหญ่ 5 ห้อง สร้างด้วยหินทั้งหมด ไม่มีเสา ใช้หินสี่เหลี่ยมแผ่นใหญ่ก่อกันเข้าเป็นรูปโค้ง เป็นที่เก็บพระศพของพระเจ้า "จู้อี้จุน" ซึ่งครองราชสมบัติระหว่าง ค.ศ. 1573 - 1620 กับมเหสีสององค์ในสมัยราชวงศ์หมิง
สุสานหมิงเสี่ยน ซึ่งฮ่องเต้หมิงซื่อจง(ครองราชย์ ค.ศ.1522-1567) สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ฝังรวมพระศพพระบิดาและพระมารดาของพระองค์ แม้นว่าท่านจะไม่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์เลยแม้แต่วันเดียว แต่พระองค์มีพระประสงค์ที่จะเทิดพระเกียรติ โดยสร้างสุสานให้ยิ่งใหญ่ ครบเครื่องเทียบเท่ากับกษัตริย์พระองค์หนึ่ง สุสานหมิงเสี่ยน นอกจากจะมีการออกแบบที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ และสวยงามผสมผสานกันได้อย่างเหมาะเจาะลงตัวของสิ่งปลูกสร้างบนดินแล้วนั้น รายละเอียดในด้านความประณีตและวิจิตรของลวดลายตามแบบฉบับศิลปะการแกะสลักหินสมัยราชวงศ์หมิงในรูปแบบต่างๆ ก็มีให้ได้ยลด้วยเช่นกัน สุสานหมิงเสี่ยน สุสานชิงตะวันออก และสุสานชิงตะวันตก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปีค.ศ. 2000 สุสาน 13 กษัตริย์ราชวงศ์หมิง และสุสานหมิงเสี้ยว ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม ในปีค.ศ. 2003