ข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกับงาน กวางเจาเทรดแฟร์ หรือ กวางโจ่ว แฟร์ (Canton Fair)
ข้อมูลทั่วไป เกี่ยวกับงาน กวางเจาเทรดแฟร์ หรือ กวางโจ่ว แฟร์ (Canton Fair)
กว่างโจวแฟร์ (Guangzhou) เป็นเมืองเอกของมณฑลกวางต้ง มีชื่อเสียงทางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่ง ของจีน และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภาคใต้ของจีนตั้งอยู่ปากแม่น้ำจูเจียง (Zujiang) มีประวัติศาสตร์ ยาวนานกว่า 2,800 ปี เป็นจุดเริ่มของเส้นทางสายไหมทางทะเลใน ครั้งอดีตและยังเคยเป็นเมืองท่าเสรีแห่ง แรกและแห่งเดียวที่เปิดต้อนรับชาว ตะวันตกที่เข้ามาติดต่อค้าขายกวางเจามีอีกชื่อหนึ่งว่า “ เมืองแพะ” ชื่อย่อคือ “ซุ่ย” เล่ากันว่าเคยมีเซียนห้าองค์ขี่แพะที่ปากคาบรวงข้าวเดินทางมาถึงเมืองกวางโจวและอวยพร ให้ถิ่นนี้ “ ไม่มีความอดอยากชั่วนิรันดร์” หลังจากที่เซียนหายตัวไป แพะทั้งห้าก็กลายเป็นหินหลังจากนั้น เป็นต้นมา กวางโจวก็ได้ชื่อว่า “เมืองแพะ” ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ซ่ง เป็นต้นมาเมืองกวางโจว ก็เริ่มมีการ พิจารณาคัดเลือก “ แปดวิวเมืองแพะ” และ ต่อมา การพิจารณาคัดเลือกแปดวิวเมืองแพะ ก็กลายเป็น ประเพณีนิยม ที่ทำกันทุกยุคทุกสมัย
กว่างโจวแฟร์ (Chinese Impost and Expost Commodities Fair หรือ Guangzhou Fair หรือ Canton Fair) เป็นงานแสดงสินค้าเพื่อการส่งออกและนำเข้าที่ใหญ่ที่สุดของจีน ปัจจุบันเป็นงานแฟร์ที่ได้ความนิยมเป็นอัน ดับ 3 ของโลก จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2500 (ค.ศ.1957) และจัดต่อเนื่องมาตลอดทุกปี
รู้ไว้ก่อนเข้างานกวางเจาเทรดแฟร์ : กว่างโจว์แฟร์ (กวางเจาแฟร์) จัดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ช่วง (3 Phase) ซึ่งในแต่ละช่วงก็จะมีการแสดงสินค้าแต่ละประเภทแตกต่างกันออกไป โดยกำหนดช่วงเวลาไว้แน่นอนทุกปีดังนี้
รายการสินค้าที่มีการจัดการแสดงงานกวางเจาเทรดแฟร์ Canton Fair ครั้งที่ 113 เมษายน และ พฤษภาคม
Phase 1 : ระหว่าง 15 - 19 2556 เวลา 09.30-18.00 น.
Electronics & Household (เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็คทรอนิค และ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน) , Electrical Appliances (เครื่องใช้ไฟฟ้า), Lighting Equipment (อุปกรณ์ให้แสงสว่าง) , Vehicles & Spare Parts (พาหนะ เครื่องยนต์ และ อะไหล่ยนต์) , Machinery (เครื่องมือใช้สำหรับงานหนัก) , Hardware & Tools (เครื่องมือ และอุปกรณ์ งานสร้าง และซ่อม) , Building Materials (วัสถุดิบสำหรับก่อสร้าง) , Chemical Products (สินค้าเคมีภัณฑ์) , International Pavilion (พาวิลเลี่ยนต่างๆ จากทุกมุมโลก) เครื่องจักรกลขนาดใหญ่, เครื่องจักรกลขนาดเล็ก, อุปกรณ์อุตสาหกรรมหนัก,ส่วนประกอบยานยนต์, วัตถุเคมี,เคมีภัณฑ์, อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และสินค้า IT, อุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไป, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน, อุปกรณ์สื่อสาร,อุปกรณ์อิเลกโทรนิกส์, อุปกรณ์ติดตั้งการ ให้ความสว่าง เช่น โคมไฟ หลอดไฟต่างๆ, เครื่องมือช่าง,อะไหล่ยนต์ทุกชนิด, จักรยานยนต์, มอเตอร์ไซค์, อุปกรณ์ก่อสร้างและตกแต่งอาคาร-บ้านเรือน, สุขภัณฑ์, เครื่องยนต์, เครื่องชั่ง, อุปกรณ์ตกแต่งภายในห้องน้ำ
ดูรายละเอียดของสินค้าที่จัดแสดงใน Phase 1 ทั้งหมด »
Phase 2 : ระหว่าง 23-27 เมษายน 2556 เวลา 09.30-18.00 น.
Consumer Goods (สินค้าอุปโภค บริโภค) , Gifts (กิ๊ฟช้อป) , Home Decorations (สินค้าตกแต่งบ้าน) , ของใช้ในชีวิตประจำวัน, เครื่องใช้ในครัวเรือน, เครื่องใช้และภาชนะที่ใช้สำหรับโต๊ะอาหาร, เครื่องเซรามิค, เครื่องเคลือบดินเผา, อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน, แก้ว, กระจก,เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์ประเภทหวาย-สิ่งทอ-ถัก-สาน, อุปกรณ์จัดแต่งสวนต่างๆ เช่น หิน แท่นหิน, อุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ เกี่ยวกับบ้าน, อุปกรณ์อาบน้ำต่างๆ เช่นสบู่ แชมพู่, ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม, นาฬิกา, อุปกรณ์เกี่ยวกับแว่นตา รวมถึงอะไหล่สำหรับประกอบ, ของเล่น, สินค้าพรีเมี่ยม และของที่ระลึก, สินค้าสำหรับงานเทศกาลต่างๆ , สินค้าสำหรับจัดงานเลี้ยงฉลองต่างๆ
ดูรายละเอียดของสินค้าที่จัดแสดงใน Phase 2 ทั้งหมด »
Phase 3 : 01-05 พฤษภาคม 2556 เวลา 09.30-18.00 น.
Textiles & Garments (ผ้าและวัสดุสำหรับงานตัดแต่ง เย็บผ้า) , Shoes (รองเท้า) , Office Supplies, Cases & Bags, and Recreation Products (อุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงาน, ที่เก็บของ และ กระเป๋า, และ สินค้าไอเดียบรรเจิด) , Medicines, Medical Devices and Health Products (ยา, อุปกรณ์ทางการแพทย์, และ สินค้าเพื่อสุขภาพ) , Food (อาหาร) , International Pavilion (พาวิลเลี่ยนต่างๆ จากทุกมุมโลก) , เสื้อผ้าชาย-หญิง, เสื้อผ้าเด็ก, ชุดชั้นใน, ชุดกีฬา และชุดลำลอง, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับขนอ่อน-ขนสัตว์ และเครื่องหนัง, อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ และชิ้นส่วน ประดับตกแต่งเสื้อผ้า เช่น กระดุม ซิป รวมถึงอุปกรณ์ตัดเย็บต่างๆ , วัตถุดิบเกี่ยวกับบ้าน เช่น ผ้าปูที่นอนปลอก หมอน, ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผ้า เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าฝ้าย, พรมปูพื้น-ผ้าม่าน, อาหาร,สินค้าพื้นเมือง และสินค้า ท้องถิ่น, เวชกรรมยารักษาโรค และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม, รองเท้า, อุปกรณ์ทางการแพทย์, อุปกรณ์กีฬา, อุปกรณ์ เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและสันทนาการ, อุปกรณ์ที่ใช้ในสำนักงาน, กล่องและกระเป๋า
ดูรายละเอียดของสินค้าที่จัดแสดงใน Phase 3 ทั้งหมด »
มีคำกล่าวว่า “หากได้มางานกว่างโจวแฟร์แล้วก็เหมือนกับว่าคุณได้มางานใหญ่ๆของโลกเกือบครบครัน” ปัจจุบันกว่างโจวแฟร์ มีพื้นที่แสดงสินค้ารวมทั้งหมด 576,000 ตารางเมตร มีผู้เข้าร่วมออกงานมากกว่า 30,000 ราย และมีผู้คนกว่า 200,000 คน ทั่วโลก ลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชมงานนี้ กว่างโจวแฟร์ถือเป็นงานรวมสินค้าทุกประเภท ทั้งสินค้าอุตสาหกรรมหนักและอุตสาหกรรมเบา มีสินค้าระดับ High – End บ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สินค้าระดับกลางถึงล่าง มากกว่า 100 หมวดหมู่ จึงไม่น่าแปลกใจที่สถานกงสุลจีนในประเทศไทยส่งเสริมให้คนไทยไปร่วมงานมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคนที่เพิ่งเริ่มธุรกิจใหม่ หรือกำลังมองหาลู่ทางการค้า แต่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี การไปงานนี้จะได้รับประโยชน์มาก
บรรยากาศภายในงาน
ภายในงานนอกจากมีสินค้าหลากหลาย เรายังมีโอกาสได้พบกับคนต่างชาติมากมาย แม้ผู้คนจะเยอะ แต่การเดินชมงานก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกอึดอัด การจัดบูธของแต่ละห้างร้าน อาจไม่ค่อยแตกต่างจากงานอื่น แต่สินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆที่แต่ละบูธเตรียมมานำเสนอนั้น ถือเป็นความตื่นตาตื่นใจ ที่จะทำให้กวางโจวแฟร์นั้นน่าจะเป็น “ครั้งหนึ่งในชีวิต” ของคุณได้ การนำเสนอสินค้าจะแบ่งเป็นประเภท ตามสินค้าอุตสาหกรรมแต่ละอย่าง เช่น IT จะอยู่ตึก A ซึ่งตึกนี้ก็จะมีสินค้าประเภทนี้เกือบทั้งหมด แต่ละตึกจัดแสดงสินค้า จะมีทางเชื่อมต่อถึงกัน ผู้ชมสามารถเดินจากตึกหนึ่งไปอีกตึกหนึ่งได้อย่างสะดวก ต่างตึกกันก็จะเป็นสินค้าต่างประเภทกันไป ทุกบูธจะมีคนประจำที่สามารถพูดภษาอังกฤษได้อย่างดี ที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือ การติดต่อสื่อสารกับผู้ชมงานรายเก่าๆซึ่งทางผู้จัดทำได้อย่างต่อเนื่อง
การคมนาคม : ก็เป็นจุดเด่นน่าชื่นชม ผู้จัดงานได้พัฒนาระบบการขนส่งในงานจนสามารถทำให้ผู้คนจากจุดต่างๆ เดินทางมาเข้าร่วมงานได้อย่างสะดวก โดยมีทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินเชื่อมถึงกันหมด และการจัดรถรับส่งเฉพาะจุด
ข้อดีของการไปชมงานแฟร์
- เรามีประสบการณ์นำคณะดูงานกวางเจาเทรดแฟร์ มากกว่า 6 ปี
- เรานำท่านดูงานกวางเจาเทรดแฟร์ จุใจ กำหนดการดูงานไว้ในโปรแกรมทัวร์ เต็ม 2 วัน
- เรานำท่านท่องเที่ยวอย่างผ่อนคลาย หลังจากดูงาน ทั้งย่านช้อปปิ้ง กวางเจา, ย่านช้อป ปิ้งมาเก๊า , ย่านช้อปปิ้งฮ่องกง ,ร้านของฝากยอดนิยม , ชมโชว์ตระการตา
- เราเน้นเลือกที่พักในโรงแรม ระดับมาตรฐาน เดินทางใกล้งาน
- เราเน้นเลือกร้านอาหาร หรือ ภัตาคารที่ได้มาตรฐาน บริการเยี่ยม
- ท่านได้พบผู้ประกอบการ ตัว ต่อ ตัว มาจากโรงงานผู้ผลิตโดยตรง มากกว่า 10,000 ราย
- ชมสินค้าใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ จากผู้ประกอบการจีน จากหลายสถานที่ทั่วเมืองจีน ตลาดผลิตยักษ์ใหญ่ของโลก
- ประหยัด เพราะท่านไม่ต้องเดินทางไปทั่วเมืองจีนเพื่อพบกับ Supplier เพราะได้มารวมตัวกันที่งานกวางเจาเทรดแฟร์
- งานกวางเจาเทรดแฟร์มีกำหนดการจัดงานที่แน่นอน จัดทุกปี ปีละสองครั้ง ซึ่งหากต้องการสินค้า หรือติดต่อผู้ ประกอบการจีน สามารถนัดพบเจรจาได้ที่งานกวางเจาเทรดแฟร์ สะดวกทั้งผู้ขาย และผู้ซื้อ
- เราสามารถแนะนำการนำตัวอย่างสินค้ากลับมาไทย ได้อย่างประหยัดที่สุด และงายดาย
- คุ้มค่า ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
- ได้พบผู้ประกอบการที่มีความสนใจในการขยายตลาดอย่างจริงจัง
- มีความหลากหลาย สามารถเลือกชมและเปรียบเทียบผู้ขายหลายๆเจ้าได้พร้อมกัน
- ผู้ขายมีความพร้อมทั้งในเรื่องตัวอย่างสินค้าและราคา
- มักจะมีสินค้าแนะนำมาให้ชม
5 ขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถเข้าชมงานแฟร์ได้อย่างมีทิศทางที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเตรียมตัวไปงานแฟร์ในจีน กวางเจา เทรดแฟร์, กว่างโจว์แฟร์ (Canton Fair)
- ควรมีเวลาชมงานอย่างน้อย 3 วัน และควรมีแผนที่ในการชมงานด้วย
- หากไม่ต้องการเบียดเสียด ควรรีบเข้าชมงานในช่วงเช้าตรู่ หรือวันที่คนชมงานน่าจะน้อย
- ควรเตรียมเสบียงอาหารกลางวันไปกินในงาน เพราะจะช่วยประหยัดเวลาได้มากและสะดวกกว่าไปกินในงานเยอะ
1. กำหนดเป้าหมายในการไปชมงานแฟร์
- เพื่อไปหาแหล่งผลิตสินค้าให้แบรนด์ของคุณ
- เพื่อไปเปิดหูเปิดตาหาไอเดียใหม่ๆ
- เพื่อไปหาสินค้านำเข้ามาขาย
- เพื่อไปสำรวจตลาดอุตสาหกรรมว่าเป็นอย่างไร
2. กำหนดวัตถุประสงค์ในการไปงานแฟร์
ควรทำรายการก่อนว่าคุณจะทำอะไรบ้าง เพื่อเป็นการประหยัดเวลาและเข้าถึงเป้าหมาย เช่น
- เก็บโบรชัวร์สินค้ากลับมาพิจารณาให้ได้มากที่สุด
- ทำความรู้จักผู้ประกอบการ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมภายหลัง
- แนะนำตัวกับผู้ประกอบการที่น่าสนใจ และขอสินค้าตัวอย่าง
- หาสินค้าแปลกๆใหม่ๆ
- ดูภาพรวมของอุตสาหกรรม เป็นต้น
3. เลือกงานแฟร์เป้าหมายมาทำการเปรียบเทียบ
แต่ละงานก็จะมีหลายประเภทต่างๆกันไป ดังนั้นท่านควรหาข้อมูลแล้วลองนำมาเปรียบเทียบดู เช่น
- Organizer เป็นใคร มืออาชีพแค่ไหน จัดงานดีหรือเปล่า
- เป็นงานระดับไหน (อินเตอร์ ภูมิภาค หรือท้องถิ่น)
- ดูรายชื่อ Exhibitors ว่ามีใครไปร่วมงานบ้าง งานไหนน่าสนใจกว่ากัน
- ขนาดของสถานที่จัดงาน ใหญ่-เล็ก ขนาดไหน
- จำนวนครั้งที่จัด ประสบความสำเร็จหรือไม่
- สถานที่จัด ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก
- จำนวนรอบที่จัด มีรอบTrade กับ ขายปลีกหรือไม่
- จำนวนครั้งที่จัด ประสบความสำเร็จหรือไม่
- สามารถไปเยี่ยมโชว์รูม หรือแหล่งผลิตอื่นๆควบคู่ไปด้วยได้หรือไม่
- สอบถามคนที่เคยไปร่วมงานว่าเป็นอย่างไร
- ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมทางเวปไซด์
4. ตัดสินใจเลือกงานแฟร์ที่เหมาะสม และลงตัวกับเงื่อนไขของคุณ เช่น ระยะเวลาในการจัดงาน งบประมาณ งบประมาณ ความน่าสนใจของงาน ทำเล ฯลฯ
5. กำหนดกลยุทธ์ในการชมงาน ต้องกำหนดวัตถุก่อนว่าคุณจะไปงานเพื่ออะไร ถ้าต้องการไปเจรจาธุรกิจ ควรจะไปวันที่ คนน้อยๆหรือควรส่งอีเมลล์หรือโทรไปนัดก่อน ถ้าต้องการเดินชมงาน ควรขอโบรชัวร์หรือนามบัตรมาเยอะๆ และแต่งตัวให้น่าเชื่อถือ จะได้ของ่ายๆ
** 5 ขั้นตอนดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถเข้าชมงานแฟร์ได้อย่างมีทิศทางที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การลงทะเบียนเข้าชมงานกวางเจาเทรดแฟร์
การลงทะเบียนเข้าชมงาน มี 3 วิธีคือ
- ลงทะเบียนผ่านทางเวปไซต์และสิ่งพิมพ์ (E-invitation Card) : สำหรับผู้ที่ไม่จำเป็นต้องนำบัตรเข้างานไปประกอบ การยื่นขอวีซ่า สามารถสมัครกับระบบ BEST (Buyer E-Service Tool) ในเวปไซต์ หลังจากที่ลงทะเบียนเรียบร้อย แล้ว ก็จะได้รับ Username และ Password กลับมาภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นก็เพียงแค่กลับเข้าสู่ระบบไป Download บัตรเข้าชมงานมาพิมพ์ใส่กระดาษก็ใช้ได้ บัตรชนิดนี้สามารถถ่ายสำเนาแล้วใช้ร่วมกันกับคนอื่นในคณะที่มาจากองค์ กรหรือบริษัทเดียวกันได้
- ลงทะเบียนผ่านเวปไซต์เพื่อขอบัตรเข้างานแบบเป็นทางการ (Paper Invitation Card) : เป็นบัตรแบบกระดาษ การ์ดทั่วไป ใช้สำหรับผู้ที่ต้องการยื่นวีซ่า วิธีการนี้เหมือนกับตอนขอ E-card คือต้องเข้าไปสมัครทางเวปไซต์ แล้ว ทางผู้จัดงานจะส่งทางไปรษณีย์ให้กับผู้ซื้อ บัตร 1 ใบสามารถชใช้ร่วมกันได้เพียง 3 คนภายในองค์กรหรือบริษัทฯ เดียวกันเท่านั้น ไม่สามารถใช้ฉบับที่ถ่ายสำเนาได้ (การสมัครผ่านทางเวปไซต์ ทั้งสองวิธีไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
- ลงทะเบียนด้วยตนเองที่หน้างาน : ในบริเวณรอบๆศูนย์แสดงสินค้า เช่นโรงแรม ห้างสรรพสินค้า จะมีจุดลงทะเบียน ที่จัดไว้ให้หลายจุด แต่วิธีนี้ค่อนข้างเสียเวลา เพราะต้องไปแก่งแย่งกับคนนับพันในวันงาน ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียน ระหว่างเวลา 9.30 – 15.30 น. เท่านั้น รวมถึงต้องเสียเงินค่าเข้า 200 หยวน สำหรับคนที่ลงทะเบียนแบบนี้อย่า ลืมนำ “พาสปอร์ต” ไปด้วย เพราะต้องใช้ประกอบการลงทะเบียนหน้างาน
** หมายเหตุ : สำหรับผู้ที่เข้าชมงานที่ไปร่วมงานมาหลายครั้งแล้ว สามารถสมัคร E-pass ซึ่งเป็นบัตรพาสติกแข็ง สำหรับเข้าชมงานได้เรื่อยๆ โดยไม่ต้องเข้าไปลงทะเบียนซ้ำๆ (แต่ผู้ร่วมงานหน้าใหม่ไม่สามารถสมัครบัตรนี้ได้)
แนะนำการขนส่งสินค้าจากกวางเจาสู่ไทย
- ภายในงานมีบริษัทบริการขนส่งสินค้า จากประเทศจีน มายังประเทศไทย โดยทางเรามีสำนักงานตั้งอยู่ที่เมืองกวางโจว
- โดยการขนส่งของเรามี 2 ทาง ได้แก่ ทางรถ และ ทางเรือ
- การขนส่งทางรถ : ใช้เวลาประมาณ 7 – 10 วัน
- การขนส่งทางเรือ : ใช้เวลาประมาณ 10 - 15 วัน
** ควรเช็คคุณภาพของสินค้าจากโรงงานเมืองจีน ดูกำลังการผลิต ความน่าเชื่อถือของโรงงานเมืองจีน
** ควรตรวจเช็คสินค้าก่อนส่งขึ้นเรือ
ข้อแนะนำด้านการเดินทาง, ที่พักในกวางเจา
โทรศัพท์ในกวางเจา
- ในกว่างโจว มีทั้งโทรศัพท์สาธารณะแบบหยอดเหรียญ และใช้การ์ด มือถือติดต่องานในเมืองกว่างโจวมีผู้ให้บริการอยู่ 2 เครือข่าย ได้แก่ China Telecom และ Unicom หากนำโทรศัพท์ส่วนตัวไป ผูใช้บริการควรตรวจสอบถามโปรโมชั่นการโทรข้ามแดนกับเครือข่ายในเมืองไทยก่อน จะช่วยให้ประหยัดค่าโทรได้มาก ถ้าต้องการโทรทางไกลให้กด 00 + รหัสประเทศ + รหัสพื้นที่(ถ้ามี) + หมายเลขปลายทางที่ต้องการ
การคมนาคมในกวางเจา
- สามารถเดินทางจากสนามบิน Baiyan เข้าตัวเมืองได้เลยโดยแท็กซี่ หรือรถไฟใต้ดิน Taxi ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย สะอาด ราคาเริ่มต้นที่ 7 หยวน ภายในระยะทาง 2.3 กิโลเมตรแรก และ 2.6 หยวนทุกๆหนึ่งกิโลเมตรถัดไป ทั้งนี้ต้องเสียธรรมเนียมค่าน้ำมันอีก 1 หยวน เพิ่มจากค่าโดยสารที่แจ้งไว้ในมิเตอร์ รถเมล์ค่อนข้างหาง่ายและมีค่าโดยสารถูก แต่ต้องเผื่อเวลาและวางแผนไว้ล่วงหน้า สามารถนั่งรถไฟจากสนามบิน มายังกว่างโจว และยังสามารถเดินทางต่อมายัง เซินเจิ้น กว่างซี หูเป่ย หรือ ฝูเจี้ยนได้อีกด้วย มีเรือไปที่เซี๊ยะเหมิน ซ่างไห่ ชิงเต่า และต้าเหลียน โดยขึ้นที่ท่า Dashatou หากเป็นเรือที่ต่อออกจากท่า Zhoutouzui จะไปฮ่องกง มาเก๊า และHaikou
โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน หรือทัวร์
- หากต้องการเข้าชมงานกว่างโจวแฟร์ ควรจองโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน หรือทัวร์ล่วงหน้าอย่าน้อย 3 เดือน มิฉะนั้น ทุกอย่างจะเต็ม หรือว่าได้มาในราคาที่แพงกว่าปกติหลายเท่าตัว โดยเฉพาะโรงแรมที่อยู่ในบริเวณรัศมีใกล้ๆงาน ในช่วงวันงานราคาจะขึ้นมาประมาณ 2-3 เท่าเลยทีเดียว ดังนั้นการไปกับทัวร์ หรือไปเป็นกรุ๊ปจะช่วยประหยัดค่า ใช้จ่ายและเพิ่มความสะดวกสบายได้อีกมาก โรงแรม 4-5 ดาว หรือบางโรงแรมที่อยู่ห่างออกไปจะมีบริการรถ Shuttle bus รับ-ส่ง ผู้โดยสารระหว่างงานกว่างโจวแฟร์กับโรงแรมด้วย ดังนั้นในการเปรียบเทียบราคาค่าที่พัก ต้องไม่ลืมดูเรื่องบริการรถรับ-ส่งด้วย
เตรียมตัวก่อนเดินทางดูงานกวางเจาเทรดแฟร์ อย่างมืออาชีพ
1.การแต่งกาย
- ชุดสูท เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่เจ้าของงาน เว้นแต่เป็นงานกลางแจ้ง นอกอาคารอาจแต่งกายลักษณะสบายๆ เช่น เสื้อโปโลที่ดูดี หากจะต้องคุยงานก็สามารถสวมสูททับไปได้เลย
- รองเท้า ควรเป็นรองเท้าหนังคู่ประจำที่ใส่สบายเท้า
2.อุปกรณ์ที่พร้อมเพื่องานที่ดี
นามบัตร
บริษัท คือ ตัวตน
ควรระบุนิยามของธุรกิจไว้ในนามบัตรด้วยเพื่อช่วยให้คนรับจำได้และรู้ว่าจะติดต่อบริษัทเรื่องอะไรต่อไป อีกทั้งยังทำให้ผู้รับสนใจมากขึ้น อีกเทคนิคที่ควรเสริมเข้าไปคือ หาคนแปลนามบัตรเป็นภาษาจีน สั้นๆเพิ่มในนามบัตร จะช่วยสร้างความประทับใจและใกล้ชิดสนิทสนมมากขึ้น
ตำแหน่ง คือ หน้าตา
พยายามใส่ตำแหน่งที่เกี่ยวข้องโดยตรงและโดนใจคนที่คุณต้องการติดต่อด้วย ลงไปในนามบัตร จะช่วยให้คุณได้รับความร่วมมือมากขึ้น เมื่อระบุตำแหน่งที่โดดเด่นและมีความสำคัญในการเจรจาธุรกิจด้วย เชื่อได้เลยว่านามบัตรและข้อมูลของคุณจะถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษอย่างแน่นอน
เบอร์ติดต่อ คือ ประตูบ้านที่เปิดต้อนรับ
นอกเหนือจากเบอร์โทรศัพท์ควรมีอีเมล์และเวปไซต์ของทางบริษัทไว้ด้วย เพื่อให้คนที่ต้องการติดต่อเข้าไปดูข้อมูลล่วงหน้าได้ก่อน ไม่ต้องเสียเวลาที่จะต้องมาอธิบายและส่งข้อมูลไปมาก่อนรู้จักกัน
**อีกเทคนิคที่ไม่ควรพลาด คือ การพกนามบัตรของคนที่เกี่ยวข้องส่วนอื่นไปด้วย เช่น ฝ่ายขายและฝ่ายจัดซื้อ อย่างน้อยลดขั้นตอนเวลาประสานงานไปได้ การแบ่งนามบัตรเก็บไว้ระหว่างเดินดูงาน ก็สร้างความเบาใจที่ยังมีนามบัตรสำรองของทีมงานที่สามารถนำไปใช้ได้ทันท่วงที
กล้องดิจิตอล
ควรเตรียมเรื่องอุปกรณ์และแบตเตอรี่ให้ดี เช็คเรื่องกระแสไฟฟ้าที่เมืองจีน (ทั่วไปใช้ 220 โวลต์) หรือโรงแรมที่พักด้วย หากต้องเตรียมเครื่องแปลงกระแสไฟ ภาพที่ควรจะถ่ายและมีประโยชน์สำหรับการทำงานคือ ภาพรวมบรรยากาศของสถานที่จัดงาน เส้นทาง หรือร้านค้าระหว่างทางที่น่าสนใจ ภาพรวมของบูธ สินค้า ตัวอย่างงาน บูธคู่แข่ง คนเข้าชมงาน เพื่อจะได้ศึกษาสำหรับการจัดงานครั้งต่อไป รวมทั้งประเมินศักยภาพของคู่แข่งปัจจุบัน อนาคต และแนวโน้มตลาด ควรโหลดข้อมูลไฟล์ภาพที่ถ่ายวันต่อวันเมื่อกลับเข้าที่พัก เพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มหน่วยความจำของกล้อง ควรแยกไฟล์เป็นวันๆ หรือจัดแบ่งตามหมวดหมู่ที่จะช่วยให้สะดวกต่อการค้นหาหรืออ้างอิงในภายหลัง
Trumb drive
หากคุณเตรียม Trumb drive ไปด้วยเวลาที่คุณนั่งคุยงาน อาจจะให้เจ้าหน้าที่เซฟไฟล์ลง Trumb drive ของ คุณได้ อุปกรณ์นี้ช่วยได้มาก เพราะเจ้าหน้าที่จะปฏิเสธได้ค่อนข้างยาก และหากคุณได้ไฟล์ข้อมูลนั้น คุณจะได้นำไป ใช้ประกอบการประชุมกับผู้บริหาร และคุณยังนำไปศึกษาต่อที่เมืองไทยหลังจากกลับไปแล้ว
กระเป๋าเอกสาร
กรณีคุณต้องเดินเก็บเอกสารหรือตัวอย่างงานตามบูธต่างๆการถือเอกสารคงไม่สะดวก กระเป๋าเอกสารที่มีล้อจะช่วยคุณได้มาก แต่ควรทำเครื่องหมายที่สังเกตเห็นได้ง่ายแต่ไกลและสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของหากมีการสูญหาย เช่น นามบัตรพร้อมเบอร์ติดต่อ และการติดสติกเกอร์ชื่อบริษัทหรือโลโก้
เทคนิคในการเข้าชมงานกวางเจาเทรดแฟร์
เมื่อไปถึงควรศึกษาเส้นทางแผนผังงานอย่างละเอียด สัญลักษณ์จุดและตำแหน่งที่สำคัญ เช่น ทางเข้า ทางออก ห้องน้ำ ร้านอาหาร ที่รับฝากของ จุดบริการโทรศัพท์-แฟกซ์ จุดนัดพบ และบริเวณที่พักภายในงาน ส่วนตาราง การแสดงงานของแต่ละบูธที่น่าสนใจ คุณสามารถไปขอข้อมูลได้จากทีมประชาสัมพันธ์ของงานในแต่ละวัน นอกเหนือจากดูงานภายในศูนย์ประชุมที่เจ้าภาพจัดแล้ว ก็ควรออกมาเปิดหูเปิดตาดูสภาพแวดล้อมภายนอกด้วย ซึ่งประสบการณ์นี้ไม่มีใครสอนเทคนิคคุณได้ การเรียนรู้จากชีวิตจริงของชาวจีน จะช่วยเพิ่มพูนความเข้าใจในการ ดำรงชีวิต สินค้า พฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าตัวจริงได้อย่างลึกซึ้ง
เทคนิคในการสร้างความน่าเชื่อถือ
การแนะนำตัวเองก่อนไปดูงานล่วงหน้ากับบรรดาผู้ประกอบการในงานจะเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด เพราะ หากคุณมีการแนะนำตัวที่ดี น่าสนใจ การเดินทางไปดูงานของคุณอาจรวมไปถึงการนัดพบเพื่อนำตัวอย่างและ ราคาเจรจาต่อกัน รวมทั้งการเยี่ยมชมกิจการและสายงานผลิตได้ด้วย คุรสามารถหาข้อมูลจากเวปไซต์ของกระ ทรวงพาณิชย์ประเทศจีนซึ่งคุณสามารถตรวจสอบข้อมูลและบัญชีรายชื่อธุรกิจต่างๆ
การแนะนำการเปิดบทสนทนาธุรกิจ
ข้อมูลและชื่อของคนที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องความหามาให้ได้ หากคุณได้ตำแหน่งคนในตำแหน่ง ที่ถูกต้องจะช่วยประหยัดเวลาและป้องกันข้อผิดพลาด สร้างภาพลักษณ์ที่ดีน่าเชื่อถือได้ตั้งแต่แรก วิธีการเริ่มต้น คือหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต หรือหากไม่มีจริงๆ การระบุแต่เพียงตำแหน่งในส่วนที่คุณต้องการติดต่อสามารถ ช่วยได้จากรายชื่อ เทคนิคที่ช่วยให้การติดต่อราบรื่นยิ่งขึ้น คือ การเขียนจดหมายฉบับแรกด้วยภาษาจีน เพื่อให้ เจ้าหน้าที่คัดกรองจดหมายอ่านและเข้าใจความต้องการของคุณได้ถูกต้องและดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้รวดเร็ว
การเจรจาธุรกิจ
คุณควรระมัดระวังและสังเกตเรื่องการเรียกชื่อ-แซ่ให้ถูกต้องตั้งแต่แรก ความซื่อสัตย์และความร่วมมือเป็ฯหัวใจ สำหรับธุรกิจกับชาวจีน สิ่งหนึ่งที่ควรเรียนรู้คือการอดทนรอ เพราะนักธุรกิจจีนส่วนใหญ่จะไม่ผลีผลามในการตัดสินใจ และการพูดคุยไม่ควรนำประเด็นเรื่องการเมือง สิทธิเสรีภาพมาเป็นหัวข้อเด็ดขาด จงจำไว้ว่าในการพบกันครั้งแรก ไม่ควรมอบของขวัญราคาแพง ที่ยกเว้นได้คือ ตัวอย่างสินค้าของคุณ หรือ ของที่ระลึกที่มีตราโลโก้บริษัทติดอยู่
เทคนิคการต่อรอง
นักธุรกิจชาวจีนจะมีความละเอียดและใส่ใจกับข้อมูล การต่อรองจะถูกมองออกเป็น 2 ด้าน คือ ด้านเทคนิคและผล ประโยชน์ทางธุรกิจ ดังนั้น สมาชิกในทีมที่ไปเจรจาควรมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ด้านเทคนิคการผลิตมาด้วย เพื่อให้ง่าย ต่อการเจรจา คุณควรเปิดการเจรจาด้วยวิธีนุ่มนวลและสร้างสรรค์ พร้อมทั้งคำนึงถึงความซื่อสัตย์และจริงใจในธุรกิจ ร่วมกัน เพื่อให้สัมฤทธิ์ผลของการเจรจา บางครั้งคุณต้องสร้างสรรค์คำถามเพื่อย้ำถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ นั้นๆ การวางมาดสุขุมลุ่มลึกและพุ่งประเด็นสำคัญสู่สิ่งที่คุณต้องการอย่างมั่นคงจะช่วยคุณได้ อย่าใจร้อนหรือวู่วาม ในการเจรจาเด็ดขาด ระหว่างเจรจาควรหาทางออกร่วมกันที่ดีที่สุด
เวลาทำการของชาวจีน
ช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่และตรุษจีน เริ่มต้นปลายเดือนมกราคม – ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็น 2 อาทิตย์ ที่คุณควรเลี่ยงในการเจรจาธุรกิจ
ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ต้องใช้เงินประมาณวันละเท่าไหร่
อาหารจานเดียวประมาณ 6 – 10 หยวนสำหรับร้านประเภทตึกแถว, 10 – 20 หยวนสำหรับภัตราคารในเมืองใหญ่ อย่างเป่ยจิงหรือชางไห่ แต่ถ้าหารต่อคนในการกินร่วมกันต่อมื้อจะประมาณ 50 – 70 หยวน สำหรับรถประจำทาง
- รถโดยสารประจำทาง จะมีราคาตั้งแต่ 1 หยวนขึ้นไปตามแต่ระยะทางในเวลาเร่งรีบจะค่อนข้างแออัด
- รถไฟใต้ดิน จะมีราคาตั้งแต่ 2-5 หยวนขึ้นอยู่กับระยะทาง มีความสะดวกรวดเร็วดี
- รถยนต์นั่งโดยสาร (Taxi) เริ่มต้นตามมิเตอร์ที่ 10 หยวนและเพิ่มขึ้นทีละ 2.50 หยวนต่อกิโลเมตร
การพักตามโรงแรม
โรงแรมระดับ 3 ดาว มีราคาตั้งแต่ 1,000 – 3,000 หยวน แต่ก็ขึ้นอยู่ช่วงการจัดงานอาจจะแพงขึ้นถึง 50% ถ้าเลือกที่จะไปเอง แต่ถ้าเดินทางกับบริษัททัวร์ อาจจะแพงจากเดิมแค่ 20% ดังนั้นหากท่านเดินทางผ่านทัวร์จะทำให้ ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า
ข้อแนะนำในการติดต่อค้าขายกับจีน
พ่อค้าชาวจีนมีความคล่องตัว ว่องไวและเก่งในการเจรจาต่อรอง ดังนั้นเพื่อความราบรื่นในการเจรจากับพ่อค้าชาวจีน ควรสนทนาด้วยท่าทีคบหาเป็นมิตร และให้เกียรติมีความจริงใจ มากกว่าจะเจรจาเฉพาะเรื่องผลประโยชน์หรือเงินๆ ทองๆ การศึกาาวัฒนธรรมและมารยาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับรายละเอียดต่างๆในการทำการค้านั้น ถ้าเราไม่ละเอียดรอบคอบก็อาจเจอปัญหาเรื่องการค้าไม่เป็นธรรม คดโกง เบี้ยวสัญญา หรือข้อตกลง ตลอดจนขัด ผลประโยชน์กันได้ ดังนั้นควรทำการตกลงให้เป็นลายลักษณ์อักษร ระมัดระวังในการตรวจสอบรายละเอียดข้อตกลงของ บริษัทฯ ที่เราติดต่อด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันทุกฝ่าย หากเกิดความไม่แน่ใจในความน่าเชื่อถือของคู่ค้า เรา ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือกับทางรัฐบาลทั้งสองฝ่ายเพิ่มเติม โดยเราสามารถตรวจสอบได้จากการเช็คข้อมูลในเวป ไซต์ของกระทรวงพาณิชย์จีน ในการชำระเงินนั้น เราควรใช้วิธีที่นิยมที่สุดคือ การจ่ายเงินด้วยระบบ L/C หรือ Letter of Credit ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาเป็นระบบ Escrow service ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและอินเตอร์เนตมาช่วย ให้เกิดความรวดเร็ว
**ข้อควรระวังในการชมงานกวางเจาเทรดแฟร์
- การเจรจาธุรกิจ ขอให้ระมัดระวังเรื่องสิทธิประโยชน์ ศึกาาประวัติผู้ร่วมทุนให้รอบคอบ
- การลงนามสัญญา ก่อนลงนามสัญญาใดๆ ต้องระบุว่าเกิดกรณีข้อพิพาทต้องมีหน่วยงานจีนเข้ามาดำเนินการเรื่องข้อพิพาทด้วย โดยสัญญาจะต้องได้รับการประทับตรารับรอง Notary public จากหน่วยงานจีนทุกครั้ง