ทัวร์อินเดีย แคชเมียร์ 6 วัน 5 คืน

 

**เดินทางโดยสายการบิน JET AIRWAYS ลูกค้าสามารถเลือกวันเดินทางเองได้ทุกวัน**

วันที่ ของการเดินทาง กรุงเทพ – เดลลี โดย 9W 63 เวลา 08.40 – 11.20 .

วันที่ ของการเดินทาง เดลลี – ศรีนาการ์ โดย 9W 603 เวลา 10:15 – 11.35 .

วันที่ ของการเดินทาง ศรีนาการ์ – เดลลี โดย 9W 604 เวลา 12:15 - 13:35 .

             วันที่ ของการเดินทาง เดลลี – กรุงเทพฯ โดย 9W 64 เวลา 12:25 - 18:10 .

 

วันที่ กรุงเทพ – เดลลี

 

06.00 พบกันที่สนามบิน สุวรรณภูมิ ชั้น เคาน์เตอร์แถว สายการบิน เจ็ทแอร์เวย์เที่ยวบิน 9W-63 ( 08:40 / 11:20 )

08:40 เหินฟ้าสู่กรุงเดลลี ประเทศอินเดีย ใช้เวลาบินประมาณ ชั่วโมง รับประทานอาหารเช้าบนเครื่อง

11:20 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธีร์ (Indira Gandhi International Airport) ตามเวลาท้องถิ่น ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ หรือ ผู้แทนบริษัทฯ รอรับ (เวลาที่อินเดีย ช้ากว่าเมืองไทย 1 ชั่วโมงครึ่ง)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน

นำท่านเที่ยวชมบ้านมหาตมะ คานธี (Ganhi Smriti) เป็นสถานที่ที่มหาตมะ คานธี พักอยู่ในเดลี และเป็นที่ที่

มหาตมะ คานธี ถูกลอบสังหารโดย จนท.รปภของตนเอง (บางข้อมูลกล่าวว่าเป็นคนภายนอก)ภายในได้จัดให้เป็นสถานที่แสดงเกี่ยวกับชีวิตของมหาตมะ คานธี ตลอดจนแสดงเครื่องใช้ อย่างเรียบง่ายของท่านด้วย นำท่านเที่ยวชม Red Fort หรือ Lal Qil'ah, หรือ Lal Qila (Hindi: लाल क़िला, Urdu: قรับการประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี .2007 ตั้งอยู่ในเขต Old Dehli และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเดลี Red Fort เป็นสถาปัตยกรรมในช่วงกลางของศตวรรษที่ ๑๗ ยุคที่จักรวรรดิโมกุลเรืองอำนาจ ในรัชสมัยของกษัตริย์ ชาร์ล จาร์ฮาล ผู้สร้างทัช มาฮาล โดยเริ่มสร้างต่อเติมจากป้อม Salimgarh Fort ซึ่งสร้างโดยกษัตริย์ Suri ในปี .1546 โดยกษัตริย์ ชาร์ล จาร์ฮาล ได้เริ่มสร้างและต่อเติมขึ้นในปี .1638 และแล้วเสร็จในปี .1648 รวมเป็นเวลาถึง 10 ปี Red Fort เป็นป้อมขนาดเล็กและเป็นพระราชวังที่ประทับของกษัตริย์ชาร์ล จาร์ฮาล ซึ่งย้ายมาจากเมือง อัครา (Agra) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำยุมนา มีผนังกำแพงด้านตะวันออกเฉียงเหนือติดกับป้อม Salimgarh Fort หลังเหตุการเข้ายึดอำนาจโดยจักรวรรดิ์อังกฤษในปี .1857 Red Fort ก็ถูกเปลียนเป็นเป็นฐานของอังกฤษติ ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 1858 และถูกใช้เป็นฐานทัพของรัฐบาลอินเดียจนกระทั้งในปี .2003 Red Fort นั้นเป็นการนำศิลปะต่าง  มาผสมผสานกันในการสร้าง โดยเป็นการรวมตัวของศิลปะแบบเปอร์เซีย อินเดีย และยุโรปเข้าด้วยกัน การออกแบบและการให้สีอันร้อนแรง เป็นลัญลักษณ์ของสถาปัตยกรรมอันทรงพลัง และถูกยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติในปี .1913 เพื่ออนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลัง ในปัจจุบันนั้น Red Fort เป็นที่นิยมเข้ามาเยี่ยมชมของนักท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน Old Dehli ในฐานะที่เป็นอนุสาวรีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด (ความยาวของกำแพงสีแดงด้านนอกยาวถึง กม.) นอกจากนี้ยังถูกใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองในงานวันชาติของอินเดียทุก ๆ วันที่ 15 สิงหาคม เพื่อรำลึกถึงวันที่อินเดียได้รับอิสรภาพจากอังกฤษ อิสระให้ท่าน ช้อปปิ้ง ที่ ตลาดดิลลี่ ฮัท (Dilli Haat) ซึ่งคล้ายกับตลาด OTOP มีสินค้าหัตถกรรม และงานฝีมือพื้นเมือง ซึ่งทางรัฐบาลอินเดียจัดที่นี้ไว้สำหรับผู้ดำเนินกิจการหัตถกรรมขนาดเล็กได้นำสินค้าพื้นเมืองมาแสดงให้นักท่องเที่ยวได้ชมและเลือกซื้อ นำท่านสู่โรงแรมที่พัก Country Inn & Suites / Park Plaza Hotel (4-ดาวหรือ เทียบเท่า

ค่ำ             รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก

วันที่ เดลลี– ศรีนาการ์

 

เช้า         รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม

รถรับส่งสนามบิน เพื่อบินต่อไปเมืองศรีนาการ์ (Srinagar)

10:15 บินจาก เดลลี สู่ ศรีนาการ์ โดย สายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบิน 9W-603 ( 10:15 / 11:35 )

            11:35 ถึงสนามบินศรีนาการ์ สนามบินเมืองศรีนาการ์ จะมีกฎห้ามถ่ายรูปเนื่องจากเป็นเมืองติดชายแดนกับปากีสฐานและจีน-ทิเบต

            รถรับนำสู่โรงแรมที่พัก รับประทานอาหารกลางวัน

อิ่มท้องแล้ว เดินทางไปชม สวนชาลิมาร์ (Shalimar) ที่สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์โมกุลในเมืองศรีนาคา แคชเมียร์เป็นแคว้นที่มีชื่อเสียงในการจัดสวนตามแบบสมัยของราชวงศ์โมกุล เนื่องจากภูมิอากาศเย็นเหมาะสมในการเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ จึงกลายเป็นที่ประทับพักผ่อนของกษัตริย์ราชวงศ์โมกุลในอดีต สวนชาลิมาร์แห่งนี้เป็นสวนแห่งความรัก สร้าง โดย จักรพรรดิ์จาฮังคี ช่วงน้ำหลากน้ำพุภายในสวนเกิดขึ้นได้โดยแรงดันน้ำธรรมชาติที่มาจากภูเขา ในช่วงฤดูร้อน ท่านจะได้พบกับดอกไม้นานาพรรณ รวมทั้งต้นชีน่าร์ (ชื่อต้นไม้ที่เรียกตามท้องถิ่นหรือเมเปิ้ล ซึ่งใบจะมีขนาดใหญ่ ต้นไม้ในสวนแห่งนี้ มีขนาดใหญ่มากบางต้นมีอายุกว่า 300-400 ปี จากนั้นนำชม สวนนิชาท (Nishat) ตั้งอยู่บนฝั่งของทะเลสาบดาล มีภูเขาซาร์บาวาล ตั้งเป็นฉากหลัง เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุด มีต้นเมเปิ้ลอายุกว่า 400 ปี รวมถึงดอกบัวสวรรค์ ที่หาพบเห็นได้ยาก และดอกไม้นานาชนิดตามฤดูกาล ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกดิน (ในช่วงฤดูหนาว อาจมีหิมะตก สวนมุกัลป์ก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ)

ค่ำ        รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรม

แคชเมียร์ "ดินแดนแห่งสวรรค์บนดิน" แบ่งเป็นเขตใหญ่  เขต คือ ลาดัค จัมมู และศรีนาคา โดยเมืองศรีนาคา เป็น เมืองหลวงในฤดูร้อน ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,730 เมตร ได้เชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทะเลสาบและสายน้ำ สวนดอกไม้ ทิวทัศน์แห่งขุนเขาและงานศิลปะที่ประดิษฐ์จากไม้ รวมทั้งการได้ไปชมสวนดอกไม้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก รัฐ แคชเมียร์ ตั้งอยู่ตอนเหนือสุดของประเทศอินเดีย และเป็นดินแดนที่งดงามกลางหุบเขาหิมาลัย มีเขตแดนติดต่อกับประเทศปากีสถาน และที่ราบสูงทิเบต ด้วยพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 222,000 ตารางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศเป็นทั้งเทือกเขา พื้นที่ราบ ทะเลสาบ ทุ่งนา ทุ่งหญ้า จนได้ขนานนามว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเอเชีย

ชาวแคชเมียร์มีความเป็นศิลปินในตัว และถ่ายทอดผลงานด้วยฝีมือที่เลื่องชื่อ คือ ผ้า พรมแคชเมียร์ และเปเปอร์มาเชย์ ที่ผลิตออกมาเป็นของใช้ และ เครื่องประดับ งดงามด้วยลวดลายหลากสีสัน ในช่วงเดือนเดือนเมษายน-กันยายน แคชเมียร์ จะมีชื่อเสียงในเรื่องของดอกไม้และสวนสวย โดยสวนที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ สวนโมกุล ที่สร้างในสมัยของราชวงศ์โมกุล • 

วันที่ ศรีนาการ์ – พาฮาลแกม หุบเขาแกะ)

เช้า      เติมพลังด้วยอาหารเช้า

เพื่อนั่งรถระยะทาง 87 .สู่เมือง พาฮาแกม (Pahalgam) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆที่อยู่แคชเมียร์

เมืองพาฮาลแกม คือ ดินแดนสรวงสวรรค์ของแคชเมียร์ นักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศต่างยกย่องให้ ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่ที่สวยที่สุดในโลก คำว่า พาฮาลแกม หมายถึง หมู่บ้านของคนเลี้ยงแกะ (Village of Shepherds) หรืออาจเรียกง่ายๆว่า หุบเขาแกะ นั่นเอง โดยพาฮาลแกมนั้นอยู่ห่างจากเมือง ศรีนาคา ของจัมมูและแคชเมียร์ ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 87 กิโลเมตร โดยตั้งอยู่ที่ระดับความสูงเฉลี่ย 2,740 เมตร (8,989 ฟุต ) เป็นสถานที่ท่อง เที่ยวยอดนิยม ซึ่งในทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนมาเที่ยวอยู่เสมอ  ระหว่างเส้นทางก็เต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้ เช่นดอกทิวลิปพื้นเมืองและทุ่งดอกมัสตาร์ดหรือที่เรียกกันว่าดอกน้ำมัน ซึ่งระหว่างเส้นทางชาวบ้านจะปลูกกันไว้เยอะมาก มองไปแบบสุดลูกหูลูกตากันเลย    ด้วยทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่งของพาฮาลแกม จึงไม่แปลกใจนักที่ดินแดนแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักสร้างภาพยนตร์ จนกลายเป็นสถานที่มีชื่อเสียง ที่สุดของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอินเดียก็ว่าได้ ปัจจุบันพาฮาลแกมได้รับสมญานามว่าเป็น "สวิสเซอร์แลนด์แห่งอินเดียไปแล้ว

  เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน

หลังอาหารกลางวัน  พาท่านท่องเที่ยวในพาฮาลแกม จุดแรกที่ควรมาเยือนคือ การชื่นชมในความงดงามของธรรมชาติ ป่าสนขนาดใหญ่และหมู่บ้านที่มีวิถีชีวิตแบบพื้นบ้านของชาวแคชเมียร์ หรือจะเลือกชมวิวทิวทัศน์ด้วยการใช้เส้นทางการขี่ม้า ซึ่งอาจแตกต่างไปตามฤดูกาล บางช่วงอาจเป็นเส้นทางไต่เขาสูงชัน สำหรับท่านที่กลัวความสูงโปรดพิจารณาก่อนตัดสินใจ ใช้เวลาไปกลับ 1-2 ชั่วโมง (ค่าขี่ม้าไม่รวมในค่าทัวร์จากนั้นให้ท่านถ่ายรูปทิวทัศน์

บ่าย     เดินทางกลับสู่เมืองศรีนาการ์ 

วันที่ ศรีนาการ์ – กุลมาร์ค (ทุ่งแห่งดอกไม้)

 

เช้า   รับประทานอาหารเช้า

         หลังอาหารเช้า ออกเดินทางสู่ กุลมาร์ค (Gulmarg) หรือที่รู้จักกันในนามทุ่งแห่งดอกไม้ (Meadow of Flowers) เป็นทุ่งหญ้าขนาดใหญ่แผ่ขยายปกคลุมพื้นที่ ตา          รางกิโลเมตรที่ความสูง 2,730 เมตรไปทางใต้ของเมืองศรีนาการ์ประมาณ 56 กิโลเมตร (เดินทางประมาณ 2.30 ..) เป็นเส้นทางที่มุ่งสู่ชายแดนปากีสถาน ทุ่ง                หญ้าประกอบด้วยเนินดอกไม้ป่านานาพันธุ์ ได้แก่ Bluebells, Daisies, Forget me Not, Buttercups เป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่อยู่สูงที่สุดในโลก (บน                ความสูง 2,650 .เหนือน้ำทะเลและเป็นที่เล่นสกีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในอินเดีย ในอดีตกุลมาร์ค ถือเป็นเมืองตากอากาศที่สำคัญของกษัตริย์              ยูซุฟ ชาห์ ชาค โดยพระราชทานนามนี้ ที่มีความหมายว่าสถานที่ที่เต็มไปด้วยกุหลาบ ในสมัยที่ตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เมืองนี้เป็นสถานที่ตากอากาศ              ยอดนิยมในช่วงหน้าร้อน และเป็นสถานที่เล่นสกียอดนิยมในช่วงหน้าหนาว เป็นที่ที่ค่าเล่นสกีจัดว่าถูกที่สุดในโลก โดยรอบจะเห็นกระท่อมรูปทรงแบบในเทพนิยาย            ด้วยทิวทัศน์ป่าสนและเทือกเขาสลับซับซ้อนอยู่เบื้องหลัง ความสวยงามทำให้เป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยกัน

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน

         จากนั้น นำท่านสู่สถานีเคเบิลคาร์ เฟสที่ เพื่อนั่ง กระเช้าลอยฟ้าหรือที่นี่เรียกว่า “กอนโดลา (ราคาทัวร์รวมค่ากระเช้าเฉพาะเฟสที่ 1) โดยถือเป็นเส้นทาง                เคเบิลคาร์ที่สูงและยาวที่สุดในเอเชียในช่วงกลางเดือนธันวาคม ถึง กลางเดือนพฤษภาคม จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเล่นสกีได้ โดยแนวสกีอฟาร์วัต (Afarwat            Hills) ถือเป็นเนินสกีที่ยาวและสูงที่สุดในเอเชีย โดยมีความยาวถึง .และจุดสูงสุดอยู่ที่ 3,747 เมตร ระหว่างทางขึ้นสู่ยอดเขากุลมาร์ค ท่านจะพบเห็นหมู่บ้าน              ยิปซี ในเบื้องล่าง ซึ่งจะอพยพไปอยู่ที่เมืองจามมูในช่วงฤดูหนาว และจะกลับมาอยู่อาศัยในช่วงฤดูร้อนเมื่อถึงบนยอดเขากุลมาร์ค  หากม่มีหมอกจัดท่านจะได้ถ่าย            รูปกับทิวทัศน์ภูเขาที่บางยอดยังมีหิมะปกคลุมสวยงามในทุกทิศทางรวมถึงยอดเขา K2 ที่สูงเป็นอันดับสองรองจากยอดเขาเอเวอร์เรส จากนั้นให้ท่านถ่ายรูปทิวทัศน์          ของภูเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย บนยอดอากาศหนาวในช่วงหน้าร้อน และหนาวมากในช่วงหน้าหนาว และหายใจค่อนข้างลำบาก แต่ทิวทัศน์สวยงาม            สุดบรรยาย (ท่านสามารถเล่นสกีได้ระหว่างช่วงฤดูหนาว-ใบไม้ผลิ ธ.. – เม.โดยเสียค่าอุปกรณ์สกีเพิ่มเมื่อถึงลานสกี )

ค่ำ    คืนนี้จะพานอน Houseboat  บ้านเรือ เพื่อให้สัมผัสวิถีชีวิตชองชาวแคชเมียร์ / รับประทานอาหารค่ำ ใน House Boat

วันที่ ศรีนาการ์ – เดลลี

เช้า      วันนี้จะตื่นเช้าหน่อยเพื่อ นั่งเรือชิคารา ซึ่งเป็นเรือพายแบบแคชเมียร์(Shikara) ชมวิถีชีวิตบ้านเรือนริมน้ำแบบคชเมียร์ แล้วกลับมารับประทานอาหารเช้า ที่ House Boat จากนั้นเดินทางสู่สนามบินศรีนาการ์ (พร้อมอาหารกลางวันแบบ pack lunch)

10.00 . ถึงสนามบินศรีนาการ์ เช็คอิน

12:15 บินจากศรีนาการ์สู่เมืองเดลลี โดย สายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบิน 9W-604 ( 12:15 / 13:35 )

15:40 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินทิรา คานธีร์ เมืองเดลลี

              รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว พาท่านไปชม วัดอัคชาร์ดาม (Akshadarm Temple) ตั่งอยู่บนฝั่งแม่น้ำยมุนา ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างเพียง 5 ปี จากระยะเวลาที่                   ต้องใช้ก่อสร้างจริง 40 ปี ด้วยแรงศรัทธาของลูกศิษย์ท่านสวามินารายณ์ และอาสาสมัครถึง 12,000 คน ได้รับยกย่องให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งใหม่ของโลก กับ                 งานสถาปัตยกรรมแบบโบราณและศิลปกรรมที่รวมเอาศิลป์แห่งอินเดียและฮินดูเกือบทุกแขนงเข้าไว้ด้วยกัน เป็นวัดฮินดูนิกายใหม่ อาคารหลักที่เป็นศูนย์กลาง                   สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และงานศิลปะด้านนวิหารสวยงามน่าตื่นตะลึงเป็นที่สุด ชมฝีมือการแกะสลักลวดลวยบนหินที่งดงาม โดยรอบอาคารสลักเป็นรูปช้าง                    148 เชือก และเทวรูปอีกจำนวน 20,000 รูป วัดนี้สร้างเสร็จในปี .. 2005 หมายเหตุ วัดอัคชาร์ดามปิดทุกวันจันทร์ หากวันเดินทางกลับถึงเดลลีตรงกับวัน                     จันทร์ ท่านอาจชม วัดสิซิก Bangla Sahib Gurdawara และวัดฮินดู Birla Mandir  นำท่านผ่าน ชม ประตูอินเดีย” (Indian Gate) ที่สร้างขึ้นเลียนแบบประตู               ชัยของปารีส เพื่อเป็นที่รำลึกถึงทหารอินเดียที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 ผ่านที่ตั้งรัฐสภาและสถานที่ทำการของรัฐบาล ผ่านชมที่ทำการ คณะรัฐบาล                        ราษฎร์ปติภวัน (Rashtrapati Bhavan) ทำเนียบประธานาธิบดี ณ ถนน Rajpath ที่ก่อสร้างด้วยหินทรายตามแบบผสมระหว่างอังกฤษและโมกุล เดิมเคยใช้                   เป็นวังของอุปราชอังกฤษในสมัยอาณานิคม มีห้องถึง 340 ห้องออกแบบโดย Sir Lutyens สร้างเสร็จเมือ ค.. 1929 โดย(สามารถชมได้จากด้านนอก) ปัจจุบันใช้               เป็นที่พำนักของท่านประธานาธิบดีอินเดีย อาคารตึกรัฐสภา นำท่านสู่โรงแรมที่

ค่ำ              รับประทานอาหารค่ำ  Country Inn & Suites / Park Plaza Hotel (4-ดาวหรือ เทียบเท่า

วันที่ เดลลี – กรุงเทพฯ

 

เช้า        รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

10:00 ถึงสนามบิน Indira Gandhi International Airport เช็คอิน

12:25 เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบิน เจ็ทแอร์เวย์ เที่ยวบิน 9W-64 ( 12:25 / 18:10 )

18:10 เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดีภาพ

 

จบโปรแกรมการเดินทาง

 ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ในการเปลี่ยนโรงแรม ที่พัก และโปรแกรมการเดินทาง หากมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติต่างๆ วิกฤตทางการเมือง หรือก่อการร้าย โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้จะถือเอาประโยชน์สูงสุดของผู้เดินทางเป็นสำคัญ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทัวร์แนะนำ ที่คุณอาจจะสนใจ