ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนสวยที่สุด ?
ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนสวยที่สุด ?
ฤดูใบไม้ร่วง (Autumn) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งหมู่มวลใบไม้ต่างๆ จะแข่งขันเปลี่ยนสีเป็นสี แดง เหลือง ส้ม กันอย่างสวยงาม ท่ามกลางสายลมเยียบเย็น ก่อนที่จะร่วงโรยไปในที่สุด เป็นฤดูกาลที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกและน่าประทับใจ วันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชมให้ได้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งแต่ละสถานที่ก็มีความสวยงามน่าประทับใจในบรรยากาศที่แตกต่างกันไป
1. Sonoma country , California USA
“โซโนมา” (Sonoma) อยู่ในดินแดนที่ผลิตไวน์ใหญ่ที่สุดในโลกของรัฐแคลิฟอร์เนีย
ในแคลิฟอร์เนีย เป็นรัฐสำคัญที่สุดในการผลิตไวน์ของสหรัฐอเมริกา เรียกว่า 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ของไวน์สหรัฐอเมริกาทั้งหมดผลิตจากที่นี่ ซึ่งเริ่มปลูกองุ่นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกองุ่นกว่า 480,000 เอเคอร์ และมีไวเนอรีกว่า 1,200 แห่ง มีเขตย่อย 107 AVA และเพาะปลูกองุ่นกว่า 300 สายพันธุ์
โดยหากคุณมาช่วงเดือน 10 นั้น จะได้เห็นความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งต้นโอ๊คและต้นเมเปิ้ล ที่จะรวมกับความสวยงามของไร่ไวน์ขนาดใหญ่ในช่วงที่มีสีสันเช่นนี้
2. Northern new Mexico
ในช่วง Autumn ของที่นี่ หากคุณได้มีโอกาสไปในเมือง Taos เมืองที่มีขุนเขาสวยงาม ลองขับรถยาวไปจนถึง Red river ทื่มีระยะทางประมาณ 134 กิโลเมตรดูครับ คุณจะได้เห็นความสวยงามของใบไม้เปลี่ยนสีทั้งหลายที่นี่ ซึ่งต้นไม้ต่างๆ รวมถึงป่าสน จะเปลี่ยนสีจากสีเขียว เป็นสีทอง และ สีแดงในช่วง ปลายเดือนกันยายนจนถึงตุลาคม
3. Holmes County, Ohio
อยู่ในตอนกลางของรัฐ Ohio ประเทศสหรัฐอเมริกา หากคุณขับรถมาแถวนี้ ในช่วง Autumn คุณจะได้เห็นต้น oak , ต้น maple และต้นไม้อื่นๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีทองหรือแดงอยู่ระหว่างทาง กับ ใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาส่องประกายบนพื้นถนน และยังได้เห็นรถม้าของชาว Amish วิ่งผ่านไปมา รวมถึงบรรยากาศของฟาร์มที่มีให้เห้นอยู่ตลอดสองข้างทาง … คิดดูครับ ว่ามันจะน่าฟินแค่ไหน
4. Gasp? Peninsula, Quebec, Canada
บริเวณชายฝั่ง Quebec แถบอ่าว Gaspe หรือ ที่เรียกกันว่า Gaspe peninsula นั้น มีแม่น้ำ St.Lawrence เป็นฉากหลังที่สวยงาม โดยฉากหน้าเป็นทิวต้นไม้ต่างๆนาๆ และมันจะสวยงามมาก หากคุณมาในช่วง Autumn เพราะใบไม้ของต้นไม้เหล่านั้น จะพร้อมใจกันเปลี่ยนสี เป็นอาณาบริเวณที่กว้างมาก ตัดกับสีของแม่น้ำที่แตกต่างกันอย่างลงตัวเป็นที่สุด
5. เมืองปอร์โต หรือ Oporto ประเทศโปรตุเกส
แม่น้ำดูโรมีต้นกำเนิดทางตอนเหนือของประเทศสเปน เลาะเลี้ยวผ่านขุนเขาน้อยใหญ่เรื่อยมา และไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกใกล้เมืองปอร์โต หรือ Oporto ประเทศโปรตุเกส แม่น้ำสายนี้นำความอุดมสมบูรณ์ให้กับหุบเขาดูโรและเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับพืชเศรษฐกิจของที่นี่มาหลายร้อยปีทั้งไร่องุ่น สวนผลไม้และโอลีฟ ถึงแม้ที่นี่จะมีอุณหภูมิค่อนข้างสูงในช่วงฤดูร้อนแต่ก็เย็นสบายด้วยไอเย็นจากลำน้ำน้อยใหญ่ ด้วยความลงตัวของธรรมชาติ บวกกับไร่องุ่นหรือที่เรียกกันว่า quintas เรียงรายบนขุนเขา ทำให้ภูมิทัศน์แถบนี้มีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัวและขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกกับทางยูเนสโก ซึ่งถ้ามาช่วง Autumn ท่านจะได้เห็นไร่องุ่นเปลี่ยนเป็นสีแดงๆ อมทอง สลับกันไป ดูสวยงามมากๆ
6. แค้วน Bavaria, Germany
แค้วน บาวาเรีย ของประเทศเยอรมันนั้น ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทาง ที่สวยงามและโรแมนติกอันดับต้นๆ ของโลกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่สุดแสนจะน่ารักหลายๆ เมือง ก็อยู่ในเส้นทางนี้ รวมถึงบรรยากาศระหว่างทาง ที่ดูแล้วสวยงามราวมาก แบบหาตัวจับยากสุดๆ
ตัวอย่างเมืองที่โดดเด่นในแค้วนนี้ ก็ Wurzburg, Rothenburh, Munich, Fussen และอื่นๆ อีกหลายเมืองครับ โดยหากคุณมาในช่วง Autumn นั้น คุณจะได้เห็นปราสาทนอยอยู่ในวงล้อมของต้นไม้หลากสีสัน รวมถึงถนนหนทาง และวิวระหว่างทางต่างๆ ที่เจ้าใบไม้นั้นพร้อมใจกันเปลี่ยนสี หลีกหนีความจำเจของวรจรชีวิตของพวกมัน ให้เราได้เห็นเป็นระยะๆ
7. Transylvania, Romania
ทรานซิลเวเนีย เป็นภูมิภาคประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของโรมาเนีย โดยมีเขตแดนด้านตะวันออกและทางใต้ติดต่อกับ เทือกเขาคาร์เพเธียน (Carpathian mountains) ทางตะวันตกจรดเทือกเขาอพูเซนิ (Apuseni Mountains) แต่ “ทรานซิลเวเนีย” ที่ใช้กันมักจะรวมบริเวณที่เลยไปจากตัวทรานซิลเวเนียเองและภูมิภาคประวัติศาสตร์ของบริเวณบานัต, คริซานา (Cri?ana) และ มารามัวร์ส (Maramure?)
สถานที่แห่งนี้มีแลนด์มาร์คชื่อดัง อย่าง ปราสาท Dracula หรือ Bran castle เป็นตัวชูโรง และมีภูมิทัศน์โดยรอ และระหว่างทางที่สวยงามมากเช่นกัน คุณลองขับรถผ่านเทือกเขา Fagaras ดูสิครับ ระหว่างทางนั้น คุณจะได้เห็นวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจของใบไม้เปลี่ยนสีหากคุณมาช่วง Autumn ของที่นี่
8. Moscow , Russia
Moscow นั้นเป็นอีกเมือง ที่ทาง National Geographic ยกตำแหน่งให้ เพราะที่นี่ บริเวณสวนต่าง หรือ ภายในเมืองหลายๆ จุดนั้น ใบไม้จะพร้อมใจกันเปลี่ยนสี ในช่วงราวปลายกันยายน ถึงตุลาคม โดย มันดูเข้ากับสภาพเมืองที่นี่อย่างมาก … บางที่ก็กลมกลืนด้วยสีโทนเดียวกัน แต่บางที่สีกลับตัดกัน แต่มันก็ดันลงตัวไม่ซ้ำใคร
9. จิ่วจ้ายโกว , ประเทศจีน
จิ่วไจ้โกว เป็นพื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535
สถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่ผมอยากจะไปเหยียบมากๆ ของประเทศจีนเลย แต่ด้วยความที่ มันจะสวยที่สุดในช่วง Autumn หรือ ตุลาคม ถึง ต้น พย. เท่านั้น เลยยังไม่ได้ไปสะที ซึ่งเป็นอีก 1 ที่ในเอเชีย ที่มีภูมิทัศน์สวยงามไม่แพ้ยุโรปเลยทีเดียว
10. Kyoto , Japan
หากไม่มีประเทศนี้ คนไทยเราคงไม่ยอมแน่ เพราะไม่มีคนไทยคนไหน ไม่รักการไปเที่ยวญี่ปุ่น และช่วง Autumn ของที่นี่ ก็มีความสวยงาม และมีสเน่ห์ไม่แพ้หลายๆ ที่เช่นกัน โดยเฉพาะกรุงเกียวโต ที่ท่านจะได้เห็นใบไม้เปลี่ยนสี ในหลายๆ สถานที่ท่องเที่ยว เช่น วัดน้ำใส หรือ สะพานอาราชิยาม่า เป็นต้น
สนใจอยากเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีสุดแสนประทับใจ คุณสามารถติดต่อ บริษัท ไทยฟลาย ทราเวล จำกัด บริษัทของเราก่อตั้งมากว่า 16 ปีแล้ว มีความเชี่ยวชาญและชำนาญในการจัดกรุ๊ปเหมาไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นแบบ Private ตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไป จัดเป็นกรุ๊ปสำหรับครอบครัวซึ่งมีเด็กทารกหรือคนชราที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ หรือเป็นคณะใหญ่ที่เป็นหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆ โดยทีมงานมืออาชีพ ให้คำปรึกษาทั้งในด้านการยื่นวีซ่า และจัดทัวร์เต็มรูปแบบ โดยที่คุณสามารถวางแผนการท่องเที่ยวได้ด้วยตนเองในราคาที่คุณพอใจตามที่ตั้ทัวร์ดินแดนสังเวชนียสถาน ไหว้พระ 4 สถานสำคัญทางพุทธศาสนา