ทัวร์อินเดียกราบนมัสการสังเวชนียสถาน 7 วัน ( TG )
ทัวร์อินเดีย พุทธคยา-พาราณสี-กุสินารา-ลุมพินี 7 วัน ( TG )
รายละเอียดการเดินทางกราบนมัสการพุทธสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่ง
ณ ประเทศอินเดียและเนปาล 7 วัน 6 คืน นำแสวงธรรม บำเพ็ญบุญ บูชาคุณพระพุทธองค์ ตามรอยบาทพระศาสดา
กราบนมัสการพุทธสังเวชนียสถานทั้งสี่ตำบล ได้แก่ สวนลุมพินีวัน สถานที่ประสูติ
ตำบลพุทธคยา สถานที่ตรัสรู้, เมืองสารนาถ สถานที่แสดงปฐมเทศนาและเมืองกุสินารา สถานที่ปรินิพพาน
“ชนเหล่าใด ได้จาริกไปนมัสการ สังเวชนียสถาน กราบไหว้ด้วยความศรัทธา เลื่อมใส ฯลฯ
ครั้นกายแตกดับ จักเข้าสู่สุคติโลกสวรรค์”
โดยสายการบินไทย แอร์เวย์
วันที่หนึ่ง กรุงเทพฯ - พุทธคยา ( D )
10.00 น. พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 3-4 เคาน์เตอร์ C สายการบินไทย เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง (แนะนำให้โหลดของที่ไม่จำเป็นลงใต้ท้องเครื่องนะคะ เพราะเจ้าหน้าที่อินเดียตรวจค่อนข้างละเอียดและเพื่อเป็นการไม่เสียเวลาในการต่อเครื่องแนะนำให้ถือเฉพาะกระเป๋าถือและของมีค่าขึ้นเครื่องเท่านั้น ถือได้คนละ 1 ใบ บนเครื่องมีบริการอาหารค่ะ)
12.10 น. ออกเดินทางสู่ เมืองพุทธคยา โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 327
14.00 น. ถึงสนามบิน เมืองคยา รัฐพิหาร (เวลาอินเดียช้ากว่าไทยประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากรแล้วคณะออกเดินทางเข้าสู่เมืองพุทธคยาใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
บ่าย คณะนมัสการ พระมหาเจดีย์พุทธคยา ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้นมัสการ พระแท่นวัชอาสน์ อนิมิสเจดีย์ รัตนจงกรม และ สระมุจลินทร์
(ถ้านำกล้องถ่ายรูปเข้าบริเวณต้นโพธิ์ เสีค่าธรรมเนียมดังนี้) กล้องถ่ายรูปธรรมดา100รูปี / กล้องวีดีโอ 1000รูปี คณะเยี่ยมชมวัดพุทธนานาชาติ อาทิ วัดจีน วัดธิเบต วัดภูฐาน วัดพม่า ฯลฯ นมัสการพระพุทธรูปองค์ใหญ่กลางแจ้ง “ ไดบุสสึ” (ซึ่งสร้างโดยชาวญี่ปุ่น)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
พักที่ Royal Ressidency หรือเทียบเท่า
วันที่สอง พุทธคยา – ราชคฤห์ - พุทธคยา ( B/L/D )
08.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม เมืองพุทธคยา หลังอาหารออกเดินทางสู่ เมืองราชคฤห์ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30ชั่วโมง) มหานครของแคว้นมคธ เป็นแหล่งรุ่งเรืองด้วยอำนาจ และการค้าขาย เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยกำแพงธรรมชาติ คือเบญจคีรีนคร หรือภูเขา 5 ลูก ได้แก่ เวภาระ เวปุละ คิชฌกูฏ อิสิคิลิ และปัณฑวะ ในสมัยพุทธกาล พระราชาผู้ครองนครนี้คือ พระเจ้าพิมพิสาร
10.00 น.กราบสักการะพระคันธกุฏิ บน เขาคิชกูฎ เป็นการเดินขึ้นที่สูงลาดชันไม่มากนัก มีบันไดก้าว เดินสบายระยะทางโดยรวมประมาณ 750 เมตร ใช้เวลาเดินขึ้นประมาณ 30 นาที แต่หากไม่ต้องการเดินเท้า ที่บริเวณเชิงเทวะ มีบริการเสลี่ยงหามโดยชาวพื้นเมือง( ท่านที่ใช้บริการดังกล่าวกรุณาแจ้งล่วงหน้า โดยมีค่าใช้จ่ายท่านละ 1400 รูปี รวมขาไปและขากลับ ) ในสมัยพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสาร กษัตริย์แห่งกรุงราชคฤห์ เมืองหลวงแห่ง แคว้นมคธ ได้เคยใช้ทางเดินสายนี้ขึ้นไปกราบนมัสการพระพุทธเจ้าเช่นกันกราบสักการะ ถ้ำสุกรขาตา สถานที่ซึ่งพระสารีบุุบุตรบรรลุเป็นพระอรหันต์ ชม กุฏิพระอานนท์ ถ้ำพระโมคคัลลานะและสถานที่ซึ่งพระเทวทัต กลิ้งหินหล่นใส่พระพุทธเจ้า จนพระบาทห้อพระโลหิต
12.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร โรงแรม
13.00 น.ชม วัดเวฬุวัน ซึ่งเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธสาสนา ที่พระเจ้าพิมพิสารทรงยกพระราชอุทยานสวนไผ่ และทรงสร้างวัดเวฬุวัน ถวายพระพุทธเจ้า นับเป็นที่ประทับแห่งแรกของพระพุทธองค์ที่ประทับอยู่นานถึง 6 ปี เป็นสถานที่ที่พระอริยสงฆ์สาวกจำนวน1,250 รูป ซึ่งล้วนเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทาคือ พระพุทธเจ้าทรงให้การอุปสมบทด้วยพระองค์เอง ได้มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายทำให้เกิด “วันมาฆะบูชา”
14.00 น.กราบนมัสการพระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินแกรนิตสีดำ “หลวงพ่อดำ” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่รอด พ้นจากการถูกเผาทำลายของพวกอิสลาม เมื่อครั้งที่มีการกวาดล้างทำลายพระพุทธศาสนา การฆ่าพระสงฆ์ และเผาทำลายมหาวิทยาลัยนาลันทา ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลกเล่าขานกันสืบมาว่าคนพยายามจะเคลื่อนย้ายหลวงพ่อดำไปประดิษฐานยังที่เหมาะสมสง่างาม แต่ก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
14.30 น. ทัศนศึกษาต่อไปยัง “นาลันทาคาม” บ้านเกิดของพระสารีบุตร อัครสาวกฝ่ายขวา ซึ่งต่อมาได้เป็นสถานที่สร้างมหาวิทยาลัยนาลันทาในอดีต พระถังซำจั๋ง (หลวงจีนหยวนฉาง) ได้เคยจาริกมา และได้ศึกษาพระธรรมและเคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ในทางพุทธศาสนาเคยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก เมื่อประมาณ 1500 ปีที่แล้ว และเคยมีพระภิกษุจำพรรษากว่า 10,000 รูป ศึกษาธรรม ณ ที่แห่งนี้ ได้เวลานำทุกท่านเดินทางกลับเมืองพุทธคยาใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง
19.00 น. รับประทาน อาหารเย็น ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ Royal Residency หรือเทียบเท่า
วันที่สาม พุทธคยา – พาราณสี ( B/L/D )
07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.00 น.เดินทางสู่ เมืองพาราณสี ( ใช้เวลาเดินทาง 5.30 ชั่วโมง ) เมืองซึ่งได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดในโลกอายุกว่า 4,000 ปี และปัจจุบันยังคงเป็นเมืองที่มีผู้อาศัยอยู่เสมอ ( แวะเข้าห้องน้ำระหว่างทาง 2.30 ชั่วโมง )
13.00 น.รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม
หลังจากนั้นนำชมสังเวชนียสถาน สถานที่แสดงปฐมเทศนา ตำบลสารนารถ (ใช้เวลาเดินทาง 30 นาที)นำนมัสการสถูปเจาคันธี สถานที่พระพุทธเจ้า พบปัญจวัคคีย์อีกครั้งหลังจากตรัสรู้ แล้วนำนมัสการธัมเมกขสถูป ที่เชื่อกันว่าเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาหัวข้อธัมมะจักกัปปะวัตตะนะสูตร ทำให้พระโกณฑัญญะบรรลุโสดาบัน พระพุทธศาสนาจึงมีพระรัตนตรัยครบ 3 ประการ แล้ว นำชมวิหารมูลคันธกุฏิ หลังใหม่ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาเลียนแบบคุปตะและจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องพุทธประวัติฝีมือช่างชาวญี่ปุ่น หลังจากนั้น นำท่านเดินทางสู่ท่าเรืออัศวเมศ เพื่อ ล่องเรือ ชมแม่น้ำคงคา แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูซึ่งเชื่อว่าแม่น้ำนี้ไหลมาจาก ภูเขาไกรลาสบนสรวงสวรรค์ ให้ทุกท่านลอยกระทงดอกไม้ เพื่อความเป็นศิริมงคล ชมพิธีบูชาไฟ และการอาบน้ำล้างบาป และการเผาศพที่ท่ามณีกรรณิการ์ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ที่ 4,000 กว่าปี ไฟที่ไม่เคยดับมอดลงเลย ( เดินทางกลับโรงแรมที่พัก )
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรม
พักที่ RADISSON
วันที่สี่ พาราณสี – กุสินารา ( B/L/D )
07.00 น.รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.30 น.นำท่านเดินทางสู่ เมืองกุสินารา ระยะทาง 195 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ระหว่างทางทัศนศึกษาทัศนียภาพ และสภาพความเป็นอยู่ของรัฐอุตรประเทศและฟังธรรมบรรยายจากพระวิทยากร
13.30 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรม / ภัตตาคาร
นำท่านนมัสการ สถานที่ปรินิพพาน ณ สาลวโนทยาน นำชมปูชนียวัตถุที่สำคัญ คือ มหาปรินิพพานสถูป สถูปใหญ่มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงบาตรคว่ำสูงใหญ่ มีฉัตร 3 ชั้นตอนบนสุดซึ่งเชื่อกันว่าองค์เดิมนั้นสร้างขึ้นโดยพระเจ้าอโศกมหาราชและเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุวิหารปรินิพพาน ตั้งอยู่หน้าพระสถูป ภายในมีพระพุทธรูปปางปรินิพพาน ฝีมือช่างชาวมถุรา อายุกว่า 1,900 ปี ที่งดงามยิ่ง โดยรอบยังปรากฏซากวัดวาอาราม ที่เคยเจริญรุ่งเรืองนับเป็นพันปี ก่อนที่พระพุทธศาสนาจะเสื่อมไปจากอินเดีย ต้นสาละ ปลูกไว้เพื่อเป็นอนุสสติว่า พระพุทธองค์ ปรินิพพานภายใต้ต้นสาละ มกุฏพันธนเจดีย์ เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ซึ่งปัจจุบันเป็นซากเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตั้งอยู่ห่างจากสาลวโนทยานประมาณ 1 กม.
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ห้องอาหารโรงแรมที่พัก
พักที่ Lotus Nikko หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า กุสินารา – ลุมพินี ( B/L/D )
**** โปรดเตรียมหนังสือเดินทางติดตัวไว้เพื่อประทับตราออกจากประเทศอินเดีย เข้าสู่ ประเทศเนปาล ****
เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม หลังจากนั้นเดินทางสู่ ลุมพินี ระยะทาง 175 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำณ พุทธวิหาร 960
เที่ยง แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรมนำท่านกราบนมัสการ สวนลุมพีนีวัน สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบถาวรวัตถุศักดิ์สิทธิ์ บริเวณลุมพินี ดังนี้ วิหารมายาเทวี สร้างขี้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่พระนางสิริมหามายา ชม ภาพหินแกะสลัก พระนางสิริมหามายา ประสูติพระกุมาร พระพุทธรูปปางประสูติ และรอยพระพุทธบาทน้อย ที่สันนิษฐานว่า พระเจ้าอโศกมหาราช ทรงสลักไว้เป็นสัญลักษณ์ของสถานที่ประสูติอายุกว่า 2,300 ปี สระโบกขรณีที่สรงน้ำพระนางสิริมหามายาและพระกุมาร เสาหินพระเจ้าอโศกที่มีขนาดความสูง 22 ฟุต 4 นิ้วและมีข้อความอย่างสมบูรณ์เขียนด้วยภาษาพราหม์ว่าเป็นสถานที่ประสูติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระเจ้าอโศกเสด็จมาบูชาในปีที่ 20 แห่งรัชสมัยของพระองค์
18.00 น.ร่วมสวดมนต์และเวียนเทียน ณ วัดไทยลุมพินี
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม
พักที่ NIRVANA หรือเทียบเท่า
วันทีหก ลุมพินี – กาฐมาณฑุ ( B/L/D )
เช้าตรู่ รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
08.30.น.พร้อมกันที่สนามบินลุมพินี เพื่อเดินทางสู่เมืองกาฐมาณฑุ
10.50 น.ออกเดินทางสู่ เมืองกาฐมาณฑุโดยสายการบิน Yeti Airlines เที่ยวบินที่ NYT 892
11.20 น.ถึงสนามบินตรีภูวัน เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระการเดินทางเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่หุบเขากาฐมาณฑุ ซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูงถึง 1,200 -1,500 เมตร ในพื้นที่เนินเขาระดับกลางของเทือกเขามหาบารัตหรือมหาภารตะ ซึ่งมีแม่น้ำบาคมาตีเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ไหลผ่านเมืองกาฐมาณฑุเป็นราชธานีและจัดเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเนปาล ในปัจจุบันนี้กาฐมาณฑุได้ขยายตัวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาณาบริเวณราชวังซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารงานปกครอง
12.30 น.แวะรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านนมัสการ มหาเจดีย์เพาธนาถ (Budhanath Stupa) ซึ่งเป็นเจดีย์ชาวพุทธที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเนปาล หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ ย่านธาเมล ( Thamel) เป็นศูนย์กลางความเจริญของกาฐมาณฑุ สองข้างทางเต็มไปด้วยบริษัททัวร์ต่างๆ โรงแรมที่พักราคาถูก ร้านอาหารนานาชาติ ร้านขายของ ร้าน อินเตอร์เน็ต ฯลฯ จึงเป็นจุดพักของนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงเนปาลเพื่อการวางแผนท่องเที่ยวในที่ต่างๆ นอกจากนี้ย่านธาเมลยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อโดยเฉพาะสินค้าจำพวกหัตถกรรมพื้นเมือง เครื่องประดับที่ทำจากหินต่างๆและอุปกรณ์สำหรับการเดินป่านานาชนิด คล้ายกับถนนข้าวสารของเมืองไทยซึ่งเป็นถนนที่มีชื่อเสียงติดอันดับโลกสำหรับนักเดินทางทั่วโลก / สมควรแก่เวลาพร้อมกัน ณ จุดนัดพบ
ค่ำ รับประทานอาหารเย็น ณ ร้านอาหารครัวไทย
พักที่ Soaltee Crowne Plaza or Grand Hyatt หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด กาฐมาณฑุ – กรุงเทพ ( B )
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
10.00 น. นำทุกท่านเดินทาง สู่สนามบินตรีภูวัน ประเทศเนปาล
11.00 น. ทำการเช็คอิน ณ เคาร์เตอร์การบินไทย
13.30 น. เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร โดยเที่ยวบิน TG 320
18.15 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมกับความอิ่มบุญ
จบโปรแกรมการเดินทาง