อินเดีย สามเหลี่ยมอารยธรรม
สามเหลี่ยมอารยธรรม ดินแดนแห่งความรัก สัมผัสสิ่งมหัศจรรย์ 1 ใน 7 ของโลกริมฝั่งแม่น่ำยมุนา
ชมท้องพระคลังสมบัติราชวงศ์โมกุล เยือนป้อมปราการบนภูผา แอมแมร์ฟอร์ต
วันแรกของการเดินทาง กรุงเทพฯ- เดลลี
17.30 น. คณะเดินทางพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 บริเวณทางเข้า 4 ด้านหน้าเคาน์เตอร์ของสายการบินไทย พบกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องกระเป๋าสัมภาระและเอกสารการเดินทาง
19.50 น. เหินฟ้าสู่ เมืองเดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG315
22.45 น. เดินทางถึงสนามบินอินทิรา คานธี กรุงเดลลี ประเทศอินเดีย หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรแล้ว
นำท่านเช็คอินเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 4 (เวลาท้องถิ่น ประเทศอินเดีย ช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง)
วันที่สองของการเดินทาง เดลลี- อัครา
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เที่ยว ชมกรุงเดลลี ท่านจะได้ชมบริเวณ เมืองเดลลีเก่า และเดลลีใหม่ เปรียบเทียบถึงศิลปะการก่อสร้างของเมืองเดลลีเก่า ซึ่งงดงามแบบแขกแตกต่างไปจากเดลลีใหม่ ซึ่งรับวัฒนธรรมของพวกอังกฤษไว้มาก ชมประตูเมืองแห่งชัยชนะ (India Gate) จากนั้นนำ ชมกุตุปมินาร์(Qutub Minar)หอคอยที่เริ่มสร้างโดยสุลต่านกุตุป-อุดิน-ไอบาค์ สุลต่านมุสลิมองค์แรกที่ขึ้นปกครองเดลลี มัสยิดสร้างด้วยหินสีแดง แกะสลักเป็นลวดลายพันธุ์พฤกษาและคำสวดจากคัมภีร์โกหร่าน ผ่านชม จามามัสยิด (Jama Masjit) เป็นมัสยิดอันดับหนึ่งในประเทศอินเดีย หรืออาจเรียกว่า มัสยิดเอก สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ นักสร้างองค์ที่ 5 ของราชวงศ์โมกุล พระเจ้าชาร์จาฮาน เมื่อปี ค.ศ. 1650 ใช้เวลาสร้าง 6 ปี ที่มีสร้างโดยใช้คนงาน 5,000 คน วัสดุใช้หินทรายสีแดง หินอ่อนสีขาวและสีแดง จุคนได้ 20,000 คน ขนาดใหญ่โตเป็นที่สองของโลกและใหญ่ที่สุดในเอเชีย ชมอนุสรณ์สถานท่านมหาตมะคานธี (Raj Ghat) บุคคล
ผู้ซึ่งเปรียบเสมือนบิดาแห่งประเทศอินเดีย ผู้นำการเรียกร้องเอกราชโดยวิถีอหิงสา ผ่านชมย่านธุรกิจการค้า ย่านที่อยู่อาศัยของเศรษฐีอินเดียบนถนนสายสำคัญของกรุงเดลลี ผ่านชมวงแหวนสถานที่ราชการต่างๆ ทั้งอาคารทำเนียบรัฐบาล ที่พักประธานาธิบดี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางออกจากกรุงเดลลี ผ่านเข้าสู่แคว้นอุตรประเทศ (Uttra Pradesh) ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งเกษตรกรรมนานาชนิดที่ผลิตเพื่อเลี้ยงดูชาวอินเดียทั้งประเทศ ไปตามถนนไฮเวย์สายใหม่ (ระยะทาง 204 กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ) สู่เมือง อัครา (Agra)
ค่ำ เช็คอินเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 4 // รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรม
วันที่สามของการเดินทาง อัครา – ทัชมาฮาล –วังฟาติเปอร์สิกรี – ชัยปุระ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
เข้า ชมทัชมาฮาล (Taj Mahal) หนึ่งในเจ็ดสึ่งมหัศจรรย์ของโลก และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Site) ในปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่และอมตะของพระเจ้าชาห์จาฮันที่มีต่อพระนางมุมตัซ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1631 พระเจ้าชาห์จาฮาน เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่พระนางมุมตัสมาฮาล พระมเหสี องค์ที่ 3 และผู้เป็นที่รักยิ่ง เมื่อพระนางสวรรณคตจากการมีพระประสูติการบุตรองค์ที่ 14 นำเดินสู่ประตูสุสานที่สลักตัวหนังสือภาษาอาระบิค เป็นถ้อยคำอุทิศและอาลัยต่อผู้เป็นทีรักที่จากไป นำท่านถ่ายรูปกับลานน้ำพุที่มีอาคารตัชมาฮาลอยู่ เบื้องหลัง แล้วนำเข้าสู่ตัวอาคารที่สร้างจากหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์จากเมืองมกรานะ ประดับลวดลายด้วยเทคนิคฝังหินสีต่างๆ ลงไปในเนื้อหิน เป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่ออกแบบโดยช่างจากเปอร์เซีย อาคารตรงกลางเป็นรูปโดม มีหอคอยสี่เสาล้อมรอบ ตรงกลางด้านในเป็นที่ฝังพระศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล และ พระเจ้าชาห์จาฮัน ได้อยู่คู่เคียงกันตลอดชั่วนิรันดร์ ตัชมาฮาลนี้ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 22 ปี ใช้คนงานกว่า 20,000 คน แล้วนำท่านเดินอ้อมไปด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำยมุนา ที่ฝั่งตรงกันข้ามมีพื้นที่ขนาดใหญ่ถูกปรับดินแล้ว เล่ากันว่า พระเจ้าชาห์จาฮันเตรียมที่จะสร้างสุสานของตัวเองเป็นหินอ่อนสีดำ ด้วยรูปอาคาร แบบเดียวกันกับตัชมาฮาล เพื่ออยู่เคียงข้างกัน แต่ถูกออรังเซบ ยึดอำนาจและนำตัวไปคุมขังไว้ในป้อมอัคราเสียก่อน นำเข้าชม อักราฟอร์ด แหล่งมรดกโลกริมแม่น้ำยมุนา ที่สร้างโดยพระเจ้าอัคบาร์ มหาราชแห่งราชวงศ์โมกุล เมื่อปี ค.ศ. 1565 เป็นทั้งพระราชวังที่ประทับและเป็นป้อมปราการ ต่อมาพระโอรส คือ พระเจ้าชาฮันกีร์ และพระนัดดา (โอรสของพระเจ้าชาฮันกีร์) พระเจ้าชาห์ จาฮาน ได้สร้างสร้างขยายต่อเติมป้อมและพระราชวังแห่งนี้อย่างใหญ่โต นำท่านเข้าชมป้อมผ่านประตู อำมรรสิงห์ (Amar Singh Gate ) เข้าสู่ส่วนที่เป็นพระราชวัง ผ่านลานสวนประดับ อ่างหินทรายสีแดงขนาดยักษ์สำหรับสรงน้ำ ท่านจะได้เห็นสถาปัตยกรรมสามยุคสมัยตามรสนิยมที่แตกต่างกันของสามกษัตริย์ นำท่านเข้าชมด้านในพระตำหนักต่าง ๆ ที่สลักลวดลายศิลปะแบบโมกุลที่มีอิทธิพลจากศิลปะอินเดีย ผสมผสานกับศิลปะเปอร์เซีย แล้วนำขึ้นสู่ระเบียงชั้นที่สองที่มีเฉลียงมุข ซึ่งสามารถมองเห็นชมทิวทัศน์ลำน้ำยมุนาได้ นำชมห้องที่ประทับของกษัตริย์ พระโอรส พระธิดาองค์ต่างๆ นำชม พระตำหนัก มาซัมมัน บูร์ช ที่มีเฉลียงมุขแปดเหลี่ยม มีหน้าต่างเปิดกว้าง สามารถมองเห็นตัชมาฮาลได้ ที่พระตำหนักนี้เองที่เล่ากันว่าชาห์จาฮัน ถูกพระโอรส ออรังเซบ จองจำขังไว้ 7 ปีในช่วงปลายรัชกาลจนสิ้นพระชนม์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย เดินทางสู่ เมืองชัยปุระ (260 ก.ม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง) ระหว่างทางแวะชม วังฟาติเปอร์สิกรี ( Fatehpur Sikri ) อดีตเมืองหลวงของจักรวรรดิโมกุล ระหว่างปี ค.ศ. 1571-1585 เมืองที่พระเจ้าอัคบามหาราช (Akbar The Great) ทรงสร้างขึ้นเพื่อหวังจะให้เป็นเมืองหลวงใหม่แต่เนื่องจากเป็นเมืองที่ไม่มีแม่น้ำไหลผ่านทำให้แห้งแล้ง จนไม่สามารถอยู่ได้จึงได้ทิ้งเมืองและย้ายไปตั้งเมืองหลวง ณ นครอัครา แต่ถึงเมืองจะทิ้งร้างไว้นานก็ยังคงหลงเหลือความงดงามของสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างฮินดูกับอิสลามซึ่งแสดงถึงปรัชญาของพระเจ้าอัคบาร์มหาราช ผู้มีความเชื่อว่าทุกศาสนาควรอยู่ด้วยกันอย่างสันติ ชม ดิวาน-อิ-คาส ( Diwan-E-Khas ) หรือห้องท้องพระโรงที่พระเจ้าอัคบาร์ออกพบแขกพิเศษ พัชมาฮาล ( Panch Mahal ) ศาลา 5 ชั้นทรงโปร่ง ประตูชัย บูลุลดวาซา ( Bulund Darwaza ) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1601 โดยพระเจ้าอัคบาร์ เพื่อเป็นอนุสรแห่ง
ชัยชนะในการออกศึกเพื่อยึดครองที่ราบสูงเดกแคน และชมสุสานของท่าน เช็ค ซาเลม คริสตี้ ( Tomb of Sheik Salim Christi )
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช็คอินเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 4
วันที่สี่ของการเดินทาง ชัยปุระ- พระราชวังแอมแมร์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางสู่ เชิงเขาอราวารี เพื่อชมความงามของ พระราชวังแอมแมร์ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนภูผาเพลิดเพลินไปกับทัศนียภาพสองข้างทางซึ่งสามารถมองเห็นภูมิประเทศเบื้องล่างสุดสายตา พระราชวังแห่งนี้เริ่มสร้างโดยพระเจ้ามันใจสิงห์ที่ 1 ในปี ค.ศ. 1592 จนสำเร็จในยุคของพระเจ้าไสยใจสิงห์ที่ 2 ต่อมาพระองค์ได้ย้ายเมืองหลวงลงมายังเมืองชัยปูร์ในปัจจุบันภายในพระราชวังแอมเบอร์ ท่านจะได้ชมพระราชวังฤดูร้อนและพระราชวังฤดูหนาวที่ประดับด้วยพลอยหลากสีท่านจะตื่นตะลึงกับห้องที่ประทับในพระราชวังฤดูร้อนที่งดงาม โดยจำลองความงามของท้องฟ้ายามราตรี
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่าน ชม ฮาวามาฮาล หรือพระราชวังสายลม สร้างโดยพระเจ้าประทับสิงห์ ในปี ค.ศ. 1799 ใช้เป็นที่ที่สตรีชาววังในสมัยนั้นสำหรับนั่งชมเทศกาลหรือ ขบวนแห่ต่าง ๆ ตลอดจนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนนอกวัง บานหน้าต่างที่ประดับประดาไว้ด้วยลวดลายอันวิจิตรตระการตา สร้างด้วยหินสีชมพูสูง 5 ชั้น กรุเป็นช่องตามหน้ามุขและหน้าต่างซึ่งรวมกันถึง 953 บาน ซึ่งในแต่ละช่องจะมีมุขระเบียงและหลังคาเพื่อระบายลม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อฮาวามาฮาล (พระราชวังสายลม) นำท่านชม ซิตี้พาเลส ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ถึง 1 ใน 7 ของใจกลางเมือง สร้างตั้งแต่สมัยมหาราชาไสวใจสิงห์และต่อเติมเรื่อยมา เป็นศิลปะผสมผสานระหว่างราชสถานและโมกุล ภายในมีลานกว้างสวนและอาคารมากมาย ตรงกลางเป็นหอจันทราฮาล สูงเจ็ดชั้น ปัจจุบันจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของมหาราชาไสว แมนสิงห์ที่ 2 แสดงภาพเขียน อาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องแต่งกายในราชสำนัก ที่ปากทางเข้าซิตี้พาเลส มีหอดูดาวจันทราแมนทาร์ สร้างในปี ค.ศ. 1728 โดยมหาราชาไสวใจสิงห์ ผู้ซี่งสนใจในวิชาดาราศาสตร์ มีการสร้างนาฬิกาแดดสูงถึง 28 เมตร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เช็คอินเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 4
วันห้าของการเดินทาง ชัยปุระ- เดลลี
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เดลลี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง ระหว่างทางให้ท่านได้ชมวิวทิวทัศน์และวิถีชีวิตชาวบ้านระหว่างทาง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย อิสระให้ท่าน กระจายรายได้ ดิลลี่ฮัท แหล่งช้อปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยว มีสินค้าหัตถกรรม และงานฝีมือพื้นเมืองต่างๆ มากมาย ให้ท่านได้เลือก ซื้อ เช่น ผ้าไหมอินเดีย เครื่องประดับอัญมณี ไม้จันทร์หอมแกะสลัก ขอ
ตกแต่งประดับบ้าน ฯลฯ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
22.00 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบิน อินทิรา คานธี เพื่อทำการเช็คอิน
วันที่หกของการเดินทาง กรุงเทพฯ
00.05 น. เหินฟ้าสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG316
05.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ