ข้อมูลเที่ยวจีน : วังขาว หรือ ไป๋กง
วังขาว หรือ ไป๋กง
วังขาว สร้างในปี ค.ศ. 1645 โดยคำบัญชาของอาว่าง หลัวซังเจียโซ่ หรือทะไลลามะองค์ที่ 5 สร้างอยู่ 3 ปีจึงแล้วเสร็จ ใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา และบริหารราชการแผ่นดินของทิเบตขององค์ทะไลลามะตั้งแต่องค์ที่ 5 เป็นต้นมา ตั้งอยู่ทางด้านขวาหรือทิศตะวันออกของวังโปตาลา จิตรกรรมฝาผนังวังขาว ผนังทางด้านตะวันออก มีภาพเมืองฉางอานสมัยราชวงศ์ถังที่โอฬารตระการตา และภาพตำนานราชฑูต “ถู่โป” ที่ฉลาดหลักแหลม สามารถแก้ไขปัญหายากแสนยาก 5 ข้อ ที่ราชสำนักถังยกเป็นเงื่อนไขในการสอบผ่าน เพื่อสู่ขอองค์หญิงจากจีนไปเป็นชายาของทิเบตราชัน ผนังทางด้านทิศเหนือ มีภาพในปี ค.ศ. 641 ที่กษัตริย์ถังไท่ทรงยินยอมยกองค์หญิงเหวินฉิง ให้เป็นพระชายาแก่กษัตริย์ถู่โป(ทิเบต) นอกจากนี้ยังมีภาพของวังโปตาลาที่สร้างอยู่บนเนินเขาแดง โดยมีจุดมุ่งหมายใหญ่คือ เพื่อให้สมเกียรติกับการได้องค์หญิงกรุงจีนมาเป็นพระชายา ส่วนบนผนังทางด้านทิศใต้ มีสิ่งที่สำคัญคือ รอยประทับฝ่ามือของทะไลลามะองค์ที่ 5 โดยมีกระจกครอบอยู่ ทั้งนี้ เนื่องจากในบั้นปลายของท่าน ท่านต้องการสนับสนุนให้ศิษย์ที่ชื่อตี้ซือ ซังเจี๋ยเจียโช่ ให้ว่าราชการและศาสนกิจแทนท่าน แต่เนื่องจากบารมียังไม่พอ องค์ทะไลลามะจึงได้ประทับฝ่ามือเป็นรอยไว้ให้ผู้คนรับรู้ในเจตนารมณ์ของท่าน ตำหนักใหญ่บูรพา หรือ ตงต้าเตี้ยน มีเสาขนาดใหญ่ค้ำยันหลายสิบตัน มีเนื้อที่ 717 ตารางเมตร ตรงกลางของตำหนักเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระทะไลลามะ มีแผ่นป้ายขนาดใหญ่เขียนอักษรจีน 4 คำ ความว่า “เจิ้นซีสุยเจียง” มีความหมายว่า “สนับสนุนพุทธศาสนา เพื่อปกปักรักษาเขตแดน” พระพุทธรูปท่านจงคาปา ตั้งอยู่ในตำหนักตงต้าเตี้ยน ซึ่งชาวทิเบตเคารพบูชาเหมือนหนึ่งพระพุทธเจ้าองค์ที่สอง ตำหนักตงต้าเตี้ยน สร้างในเวลาเดียวกันกับวังขาว ในปีค.ศ. 1645 ตั้งอยู่ในบริเวณชั้นที่ 4 ของวังขาว และนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1653 ซึ่งเป็นปีทีทะไลลามะองค์ที่ 5 ได้รับพระราชทานสมณะศักดิ์ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดแห่งสงฆ์ ควบกับการเป็นผู้ปกครองแผ่นดินทิเบต ทะไลลามะองค์ต่อๆมา ต่างได้เข้าพิธีรับพระราชทานสมัญญา เป็นผู้นำทางศาสนาและการปกครองเรื่อยมา องค์ทาไลลามะจะประทับ ณ พระตำหนักขาวเฉพาะในฤดูหนาว ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนมีนาคมถึงกันยายน จะเสด็จประทับ ณ ตำหนัก นอร์บุหลิงฆา พระราชวังโปตาลาเป็นที่ประทับของทะไลลามะ ตั้งแต่องค์ที่ 5 จนมาถึงองค์ที่ 14 ก็กลายเป็นเพียงตำนาน เมื่อกองทัพแดงของจีนบุกเข้ายึดครองในทิเบตในปี พ.ศ.2493 ส่งผลให้เกิดจราจลในกรุงลาซา จนในที่สุด วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2502 ทะไลลามะองค์ที่ 14 ต้องเสด็จออกจากวังโปตาลาไปลี้ภัยในประเทศอินเดีย ตราบจนวันนี้
ทั้งพระราชวังแดงและพระราชวังขาว เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังโปตาลา Potala Palace เมืองทิเบต ดังนั้น หากท่านได้ไปเที่ยวทีพระราชวังโปตาลา ท่านจะได้เที่ยวชมกันถึง 3 พระราชวังกันเลยทีเดียวคะ