ข้อมูลเที่ยวรัสเซีย : การเตรียมตัวก่อนการเดินทางรัสเซีย
การเตรียมตัวก่อนการเดินทางรัสเซีย
การแต่งกาย
เสื้อผ้าที่เตรียมไว้สำหรับเดินทาง กรุณาเตรียมเท่าที่จำเป็น และเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศช่วงของการเดินทางที่ท่านต้องการ ควรเตรียมเสื้อโค๊ตบาง หรือ สเว็ตเตอร์ รองเท้าสวมใส่สบาย ช่วงที่เดินทางเป็นช่วงฤดูร้อน แต่ไม่ถึงกับร้อนมาก อุณหภูมิจะอยู่ในช่วงประมาณ 25 องศาเซสเซียส ควรเตรียมร่มแบบพับได้ไปด้วย เพราะอากาศอาจมีการเปลี่ยนแปลง (ควรเตรียมถุงมือ หมวก รองเท้ากันลื่น ถุงเท้าหนา แว่นกันแดด ผ้าพันคอ ) รองเท้า ควรเลือกร้องเท้าที่สวมใส่สบาย มีพื้นดีสามารถยึดเกาะถนนและกันลื่นได้
การเลือกเสื้อผ้าใส่กระเป๋า
1ใช้เสื้อผ้าสีโทนเดียวกัน เพื่อให้เกิดความง่ายในการหมุนเวียนสลับกันใส่ เช่น โทนสีน้ำเงิน สีน้ำตาล หรือแม้กระทั่ง โทนสีแดง
2 ใช้เสื้อสูทที่มีลักษณะลำลอง สูทแบบนี้จะเข้าประชุมก็ได้ หรือยามเย็นก็ไปงานได้ด้วยเช่นกัน
3 ใช้กระโปรงพริ้ว เช่น กระโปรงพลีท จะทำให้ใช้ได้หลายโอกาสกว่ากระโปรงแคบทรงตรง
4 จะเลือกใช้กางเกงสูทก็ดี ต่างประเทศยอมรับกางเกงแพนท์สูทแบบนี้เป็นทางการพอๆกับ กระโปรง
5 ใช้เครื่องประดับหรือผ้าพันคอ ช่วยให้เกิดความหลากหลายแทนการเปลี่ยนเสื้อผ้าหลายๆชุด
6 กางเกงยืดแนบตัวแบบที่เรียกว่า เลกกิ้ง (Legging) เป็นกางเกงที่เหมาะสมกับบรรยากาศแบบลำลอง ไม่ เปลืองที่ และไม่ยับย่น ใส่กับสูทก็ดูทันสมัย
7ใส่เสื้อตัวในหลายๆตัว กับสูทก็ดูทันสมัย
8ก่อนจัดเสื้อผ้าลงกระเป๋านำเสื้อผ้าที่คิดว่าจะนำไปนั้นมาวางสำรวจทบทวนดูอีกทีว่าชุดนี้จำเป็นหรือไม่ ชุดนั้นจะได้ใส่หรือเปล่า
กระเป๋าเดินทาง น้ำหนักของกระเป๋าเดินทางไม่เกิน 20 กิโลกรัม ต่อ 1 ท่าน หากน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดไว้ ทางสายการบินจะเรียกเก็บค่าน้ำหนักเพิ่มประมาณกิโลกรัมละ 400 –500 บาท ควรตรวจดูป้ายชื่อทุกครั้ง เนื่องจากการส่งกระเป๋าไปตามห้องพักจะดูป้ายผูกกระเป๋าเป็นหลัก และควรเป็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ แบบแข็ง มีล้อ กระเป๋าแฮนด์แบ็ค อนุญาตให้นำกระเป๋าถือขึ้นเครื่องเฉพาะขนาดเล็ก และมีน้ำหนักไม่เกิน 7 ก.ก. เท่านั้น
หมายเหตุ ระบบรักษาความปลอดภัยที่สนามบินทุกแห่ง ไม่อนุญาตให้นำมีดพับ, ของมีคมหรือวัตถุอื่นใด ที่อาจใช้ในการก่อเหตุการณ์ร้ายขึ้นเครื่อง ควรจัดเก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ และหากทางสายการบินตรวจพบบางแห่งอาจทำการยึดโดยไม่คืนให้
บัตรเครดิต ใช้ได้ตามโรงแรม ภัตตาคาร และห้างสรรพสินค้าในเมืองสำคัญๆ ในกรณีที่ท่านต้องการสินค้า ท่านควรจะขออนุมัติวงเงินจากบัตรเครดิต ธนาคารต้นสังกัด เพื่อความสะดวกในการใช้จ่าย
กระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศรัสเซีย จะใช้กระแสไฟฟ้า 220 โวลต์ เครื่องใช้ส่วนตัวที่นำไปด้วย อาทิ ไดร์เป่าผม เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่จะเป็นปลั๊กสองหมุดกลม ดังนั้น ควรจะนำ adapter ไปด้วย
ยาประจำตัว ท่านที่มีโรคประจำตัว ควรนำยาติดตัวไปด้วย สำหรับยาสามัญ หัวหน้าทัวร์จะเตรียมไปให้บริการด้วย
น้ำดื่ม / น้ำแร่ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป ราคาประมาณ 7 –9 รูเบิล ประมาณ 10.50 - 14 บาท
สกุลเงินที่ใช้ ประเทศรัสเซียใช้สกุลเงิน รูเบิล 1 อเมริกันดอลล่าร์ เท่ากับ 38 รูเบิล (1 รูเบิล เท่ากับ 1.50บาท)
ภาษา ใช้ภาษารัสเซียน เป็นหลัก ตามสถานที่ท่องเที่ยว ท่านสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้
การให้ทิป ตามภัตตาคารหรือโรงแรม คนขับรถ ผู้ให้บริการมุ่งหวังที่จะได้รับค่าทิปเป็นการตอบแทนจากผู้ใช้ บริการ
ของมีค่า ไม่ควรนำติดตัวไปด้วย เพราะอาจมีการสูญหาย หรือถูกโขมย ควรระมัดระวัง
อาหาร ในแต่ละประเทศจะมีความแตกต่างในเรื่องการจัดอาหาร อันเนื่องมาจากวัตถุดิบที่ ใช้ในการปรุง ร้านอาหารจีนจะจัดอาหารเป็นชุด ประกอบด้วย 1 ซุปและอาหารจานร้อน 5 จาน พร้อมชาร้อน หรือน้ำเปล่า และผลไม้ อาหารไทย จะมีอาหารคาว – หวาน ประมาณ 5 – 6 อย่าง
รายการอาหารเครื่องดื่มที่นอกเหนือจากที่ทัวร์จัดให้เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเอง โค้ก ราคา ประมาณ 15 รูเบิล อาหารพิเศษ โดยปกติทางทัวร์ จะหลีกเลี่ยงอาหารประเภทเนื้อวัว เพื่อส่วนรวมส่วนท่านที่รับประทานอาหารพิเศษ ประเภทมังสาวิรัติ หรืออาหารเจ ต้องรออาหารนาน เนื่องจากมีความจำเป็นต้องเสริฟอาหารแบบปรุงเสร็จใหม่ ถึงจะทำอาหารพิเศษให้ท่านได้ภายหลัง
อาหารของชาวรัสเซีย
อาหารเช้า (ZAVTRAK) เป็นอาหารที่ค่อนข้างเบาก่อนเริ่มการทำงาน อาจจะเป็นพวกแซนด์วิช กับ ชีส แฮม หรือ ซาลามี กับน้ำชา สำหรับผู้ใหญ่ สำหรับเด็ก ก็จะเป็น ไข่ต้ม, ไข่เจียว หรือที่เขาเรียกว่า “KASHA” ก็คือจะเป็นพวก เมล็ดพันธุ์พืช, ข้าวสาลี, เมล็ดข้าว กินพร้อมกับนม ใส่น้ำตาล เนย หรือที่บ้านเราเรียกว่า ซีเรียล “Cereal”
อาหารเที่ยง(OBED) เป็นอาหารหลักของวัน และจะรับประทานช่วง บ่ายโมง ถึง บ่ายสามโมง อาหารเที่ยงจะเริ่มด้วย ZAKUSKA (ปลาแฮริ่งเค็ม,รมควัน หรือสลัดผัก) ต่อจากนั้นตามด้วยซุป ถ้าเป็นซุปไก่ก็จะเป็นการต้มไก่ทั้งตัวลงในหม้อ ถ้าเป็นซุปเนื้อก็จะต้มรวมกับผักประมาณ 4 ชั่วโมง และจะทานกับผักสด,ถั่ว,ข้าวหรือข้าวบาร์เล่ย์ ซุปที่ชื่นชอบส่วนใหญ่เป็นซุปกะหล่ำปลี ซุปหัวผักกาดหวาน (BORSHCH) หลังจากซุปก็จะเป็นอาหารหลัก โดยเฉพาะปลาน้ำจืด ถ้าเป็นเนื้อก็จะเป็นเนื้อตุ๋นทานกับเห็ดชนิดต่างๆ เช่น แตงกวา,ผักกะหล่ำปลี และจะมีซอสมะเขือเทศและข้าว หรือที่เรียกว่า SOSISK ก็จะเป็นแบบเยอรมันที่จะเสริฟพวกไส้กรอก ซึ่งก็เป็นที่นิยมกันมาก ถ้าเป็นพวกลูกชิ้นเมนคอร์สก็จะเสริฟกับมันฝรั่ง , พาสต้า , แตงกวา และจะเสริฟรวมกับขนมปังเสมอ ตบท้ายด้วยกาแฟ หรือชา ผลไม้ หรือน้ำผลไม้ต่างๆ
อาหารเย็น (UZHIN) หรือซัปเปอร์ ส่วนใหญ่ก็จะรับประทานร่วมกันถ้าในครอบครัวก็จัดเป็นแบบโต๊ะกลม แลกอาหารกันทาน ซุปก็จะเสริฟได้เรื่อยๆ อาหารหลักก็จะเป็นพวกผัก หรือมันบด ใส่ซอสเห็ด และเนยแข็ง ตบท้ายด้วย ชา หรือ นม เครื่องดื่ม ในต่างประเทศ การนำเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์เข้าไปในร้าน โดยปกติทางร้านจะเก็บค่าบริการ และค่ามินิบาร์ในโรงแรมจะราคาสูง ท่านสามารถซื้อจากข้างนอกแล้วไปทานในโรงแรมได้
เครื่องดื่มของชาวรัสเซีย
ชา (CHAI) รัสเซียเป็นประเทศที่สามรองจาก อังกฤษ , ญี่ปุ่นที่ชอบดื่มน้ำชา อาจจะเติมน้ำตาล หรือมะนาวลงไปด้วย ส่วนใหญ่ดื่มกับขนมเค้ก ,
ผลไม้กระป๋อง (SAMOVAR) คือเครื่องต้มน้ำชาเล็กๆ
กาแฟ (COFFEE) เป็นเครื่องดื่มธรรมดาไม่ค่อยนิยม
วอดกา (VODKA) เป็นเครื่องดื่มประจำชาติ โดยปกติจะดื่มเพียวๆไม่มีเครื่องผสม ถ้าดื่มวอดกาแล้วควรจะทานอะไรตามลงไปด้วย เช่นแตงกวาดอง ,เห็ด , ขนมปังดำ หรือปลาแฮริงรมควัน
ไวน์ (WINE) รัสเซียเป็นผู้ผลิตไวน์อันดับสามของโลก ส่วนใหญ่ก็จะผลิตในทางภาคใต้ของประเทศ และดื่มกันมากไม่ค่อยได้ส่งออก
เบียร์ (BEER) เบียร์ ก็เป็นที่นิยมกันมากเหมือนในประเทศยุโรปอื่นๆ น้ำดื่ม (WATER) เป็นพวก MINERAL WATER ขึ้นชื่อมากจะเป็นน้ำที่นำมาจาก SPAS
ห้องน้ำ มีห้องน้ำสาธารณะให้บริการ แต่จะเก็บค่าใช้บริการประมาณ 5 – 10 รูเบิล
การประกันภัย ได้รับความคุ้มครองจาก บ. เมืองไทยประกันชีวิต จก. ในรูปแบบของกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ การเดินทางในวงเงิน 200,000 บาท / ท่าน และรักษาค่าพยาบาล 20,000 บาท / ท่าน
ทั้งนี้ในวงเงินจำกัด 10,000,000 บาท (สิบล้านบาท) ต่อหนึ่งกรมธรรม์ และไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยได้
เกร็ดน่ารู้
1โดยปกติโรงแรมจะบริการอาหารเช้าในช่วงเวลา 08.00 – 10.00 น.
2เวลา CHECK – IN จะเช็คได้ในช่วงเวลา 12.00 น.
3การให้ทิปเด็กเสริฟ อยู่ที่ 10 % ของราคาการสั่งอาหาร
4ราคาของหนังสือพิมพ์, โปสการด์ จะอยู่ที่ 7 รูเบิล
5ค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน อยู่ที่ 8 รูเบิลตลอดสาย
6ระวังถูกล้วงกระเป๋า ในขณะที่อยู่ในตลาด หรือ ที่ที่มีฝูงชนเยอะ
7ห้ามถ่ายภาพในรถไฟใต้ดิน + พิพิธภัณฑ์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วถ้าจะถ่ายจะต้องเสียค่าบริการ 100รูเบิล ต่อการถ่ายภาพในสถานที่นั้น
8น้ำประปาที่รัสเซียนั้นไม่สามารถดื่มได้อย่างประเทศยุโรปทั่วไปเนื่องจากไม่สะอาด การเตรียมกล้องและฟิล์ม
9เตรียมฟิล์มที่จะใช้ถ่ายรูปไปให้เพียงพอ ฟิล์มในต่างถิ่นหรือต่างประเทศมีราคาแพงและหาซื้อได้ยาก สำหรับฟิล์มเก่าควรตรวจเช็คที่ข้างกล่องด้วยว่าหมดอายุแล้วหรือยัง เพราะถ้าใช้ฟิล์มหมดอายุภาพที่ได้สีสันจะผิดเพี้ยน
10ฟิล์มที่ควรเลือกใช้คือฟิล์มที่มีความไวแสงปานกลาง ISO 100 หรือ 200 ส่วนฟิล์มที่มีความไวแสงสูง ISO 400 ขึ้นไปเหมาะสำหรับสภาพที่แสงสลัว หรือถ่ายภาพเคลื่อนไหว เช่นภาพสัตว์ป่า
11สำหรับฟิล์มสไลด์ ที่มีความไวแสงต่ำ ISO 50 หรือ 64 จะให้ภาพที่คมชัดมากกว่า แต่ต้องใช้ในสภาวะที่มีแสงจัดจ้า หรือต้องใช้ขาตั้งกล้องช่วย ฟิล์มสไลด์ยี่ห้อสีเขียว(ฟูจิ) จะเก็บภาพสีเขียวได้สวยงาม เหมาะสำหรับการถ่ายภาพธรรมชาติ ป่าเขา แต่อีกยี่ห้อหนึ่งกล่องสีเหลือง(โกดัก) จะให้สีแดงและสีเหลืองที่สวยกว่า เหมาะสำหรับการถ่ายภาพในเมืองหรือภูมิทัศน์ที่เป็นสีเหลือง สีทราย
12เตรียมถ่านกล้อง ถ่านแฟลชสำรองไปให้พร้อม กล้องอัตโนมัติทั้งหลายต้องการถ่านซึ่งจะทำให้กล้องทำงาน และเมื่อถ่านกล้องหมด กล้องจะหยุดทำงานโดยเฉพาะกล้องรุ่นใหม่ควรเตรียมสำรองไป เพราะบางสถานที่จะไม่มีขาย
13หากเดินทางไปที่อากาศหนาวเย็นมากๆ (ต่ำกว่า –5องศาเซลเซียล) แบตเตอรี่จะหมดเร็วเป็นพิเศษ ดังนั้นเมื่อไม่ได้ถ่ายภาพ ควรถอดแบตเตอรี่ออกจากกล้องแล้วเก็บไว้ในที่อุ่นๆ เช่นกระเป๋ากางเกง ในกระเป๋าเสื้อ ขณะเดียวกันฟิล์มจะกรอบเป็นพิเศษด้วย หากเป็นกล้องที่ต้องหมุนฟิล์มขึ้นด้วยมือให้หมุนช้าๆ อย่างระมัดระวัง ฟิลเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยปกป้องเลนส์ในกรณีที่เกิดฝนตก หรือหิมะตก และเพื่อป้องกันความชื้นและเกิดหยดน้ำในกล้อง เมื่อถ่ายภาพเสร็จและเข้ามาในที่อบอุ่น ให้นำกล้องใส่ถุงพลาสติกรัดปากให้แน่น ไอน้ำจะไปเกาะที่ถุงแทนการเกาะอยู่ในกล้อง
14ความร้อนเป็นศัตรูกับกล้องและฟิล์มไม่หย่อนไปกว่าความเย็น อย่าทิ้งกล้องและฟิล์มไว้ในรถหรือในท้ายรถ ซึ่งหมายถึงว่าอย่านำฟิล์มที่ยังไม่ได้ถ่ายแล้วใส่ในกระเป๋าเดินทางซึ่งต้องอยู่ในท้ายรถหรือบนหลังคารถ
15ฝุ่น ทราย รวมถึงเกลือเค็มจากทะเลเป็นศัตรูตัวฉกาจ ควรถ่ายให้เสร็จเรียบร้อยก่อนแล้วนำกล้องไปเก็บ หรือไม่เช่นนั้นก็ควรใช้กล้องสำหรับถ่ายภาพริมทะเล และในน้ำโดยเฉพาะ
16เก็บฟิล์มที่ถ่ายเสร็จเรียบร้อยให้เป็นที่เป็นทาง เช่น มีถุงสำหรับรวมฟิล์มโดยเฉพาะแยกต่างหากจากฟิล์มที่ยังไม่ได้ถ่าย กล้องอัตโนมัติบางตัวกรอฟิล์มแบบเหลือหางฟิล์มไว้เล็กน้อย หากไม่เก็บให้ถูกที่ถูกทางอาจเผลอหยิบมาใส่กล้องและถ่ายซ้ำได้
17หากไม่เคยใช้กล้องนั้นๆมาก่อน ควรศึกษาคู่มือหรือสอบถามผู้รู้และหัดใช้กล้องให้คล่อง รู้การทำงานของกล้อง โดยเฉพาะต้องหัดใส่ฟิล์มและเปลี่ยนฟิล์มให้เป็น และหากเป็นกล้องเก่าไม่ค่อยได้ใช้ควรตรวจเช็คว่ายังทำงานดีอยู่หรือไม่
18เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ควรนำฟิล์มไปล้างอัดทันที อย่าทิ้งไว้นาน หากฟิล์มเหลือค้างอยู่ในกล้องให้กรอฟิล์มกลับ หรือให้นำกล้องไปให้ทางร้านถอดฟิล์มออกและตัดเฉพาะที่ถ่ายไป ส่วนที่เหลือนำกลับมาใช้ต่อได้ อย่าทิ้งไว้ในกล้องนานๆ จนฟิล์มเสื่อมคุณภาพ ที่สาธารณะ ห้ามสูบบุหรี่ในพาหนะขนส่งสาธารณะทุกอย่าง รวมทั้งเครื่องบินภายในประเทศ อาคารสถานที่ สาธารณะและร้านอาหารบางแห่งก็ห้ามสูบบุหรี่เช่นกัน
ข้อควรปฏิบัติ
1. ในกรณีที่พลัดหลงจากกรุ๊ป ท่านควรจะหยุดอยู่ที่เดิมเพื่อรอหัวหน้าทัวร์มารับ
2. กรุณาตรงต่อเวลานัดหมายทุกครั้ง เพื่อมิให้ผู่อื่นต้องคอยนาน
3. หากต้องการบริการพิเศษหรือมีข้อแม้พิเศษส่วนตัว เช่น ไม่รับประทานอาหารประเภทใดเป็นพิเศษโปรดแจ้งล่วงหน้าก่อนการเดินทาง 3 สัปดาห์
4. การจัดที่นั่งบนรถโค้ช ขอความกรุณาเสียสละให้กับผู้สูงอายุนั่งตอนหน้าใกล้ประตูขึ้น – ลงเพื่อความสะดวก
5. โปรดเกรงใจและเคารพในสิทธิของผู้อื่นทุกกรณี
6. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ในกรณีที่เกิดเหตุสุดวิสัย เช่น การ จลาจล, การหยุดงานภัยธรรมชาติ, และกรณีเรียกร้องเดินขบวนต่างๆ
7. การเดินทางเป็นการชำระแบบเหมาขาด หากท่านมิได้ใช้บริการส่วนหนึ่งส่วนใด ท่านไม่สามารถเรียกคืนเป็นเงินได้
Credit: tiewrussia