ข้อมูลเที่ยวอียิปต์ : การแต่งกายอียิปต์
การแต่งกายอียิปต์
เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของทวีปอัฟริกา คร่อมแหลมไซนาย มีแม่น้ำ ไนล์ไหลผ่านเป็นแนวยาวจากดิฮัลฟาในเขตซูดานจนถึงไคโร ปากน้ำแยกออกเป็นสองแถว ไหลลง สู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้เกิดแผ่นดินรูปสามเหลี่ยมเรียกว่า อียิปต์ต่ำ (Lower Egypt) มีเมือง สำคัญ คือ อเล็กซานเดรีย ทางตะวันออกของสมาเหลี่ยมเป็นแหลมไซนาย บริเวณที่ขุดคลองสุเอช มีเมืองท่าชื่อ ปอตซาอิต ส่วนที่อยู่ใต้เมืองไคโรเรียกว่าอียิปต์เหนือ (Upper Egypt) หลักฐานของอดีตมีอยู่ในวัด และปิระมิด ที่สร้างด้วยหินที่แข็งแรงมากเอกลักษณ์ทางศิลปะของเขาก็คือ มีสิ่งที่เป็นลักษณะรูปสามเหลี่ยมที่แข็ง ๆ ชำ้ ๆ กันแต่ มีระเบียบไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นที่ตั้งเรียงราย ก็จะเป็นระยะ ๆ เท่า ๆ กัน ขนาดก็เท่ากันเป็นระเบียบ เรียบร้อย สถาปัตยกรรมเป็นเสาสูงลักษณะแข็งแรงเป็นเหลี่ยม ๆ ที่ฐานเป็นรูปดอกไม้ลักษณะ แข็งแรง ยอดเสาจะมีฐานรองเป็นรูปเหลี่ยมดูแข็งแรงเพื่อรับนำ้หนักของหลังคา ศิลปะการแกะสลัก หรือวาดภาพคนบนผนังโบสถ์หรือกำแพง ทำให้เราทราบถึงการแต่งการของชาวอียิปต์ได้ รูปคนที่ เจาะลงในหินระบายสีสดใส เครื่องแต่งกายประกอบด้วยผ้าชั้น เดียวแบบง่าย ๆ เป็นเพราะอยู่ใน บริเวณที่มีอากาศร้อน และแห้งแล้ง อียิปต์แบ่งความเจริญออกเป็น 3 ยุค คือ
ยุคแรก เรียกว่าโอลด์คิงดอม “Old Kingdom” เริ่มตั้งแต่คริสต์ศักราช 2780 – 2280 ปี ก่อนคริสตกาล
ยุคกลาง มิดเดิลคิงดอม “Middle Kingdom” เริ่มตั้งแต่คริสต์ศักราช 2065 – 1660 ปี ก่อนคริสตกาล
ยุคใหม่ เรียกว่า นิวคิงดอม “New Kingdom” เริ่มตั้งแต่คริสต์ศักราช 1980 - 950 ปี ก่อนคริสตกาล
ยุคแรก
ชาย นุ่งผ้าสั้น ใช้ผ้าพันรอบสะโพก คาดเอว ทิ้งชายไว้ด้านหน้า ไม่สวมเสื้อส่วนคนทำงาน จะนุ่งผ้าคล้ายผ้าขาวม้า หรือผ้าเตี่ยว เรียกว่า ลอยน์โคลท (Lion cloth) ไทรแองกูล่า แอพพร่อน (Triangular Apron) ส่วนของกษัตริย์ ใช้ผ้าที่หรูหรากว่า คือผ้าที่ใช้เป็นผ้าทอด้วยด้ายทอง และมีลักษณะจับ จีบไว้ข้างหน้า หญิง แต่งกายเช่นเดียวกับผู้ชาย คือ ใช้ผ้าชั้น เดียว นุ่งเป็นทรงแคบคล้ายปลอกเรียกว่า ชิทกาวน์ (Sheath gown) เริ่มแต่ใต้อกถึงข้อเท้า มีสายสะพายดึงไว้ที่ไหล่ทั้ง 2 ข้าง หลักฐานทางด้านการแต่งกายของอียิปต์ที่ได้จากซากศพ และภาพวาดในสมัยนี้ชายก็ยัง ใช้ผ้าลอยโคลท แต่นุ่งหลวมกว่าในระยะแรก และรูจักลงแป้งผ้าให้แข็ง
ยุคที่ 2 คือ ยุคกลาง Middle Kingdom
ชาย เริ่มใช้ผ้านุ่งหลายชั้น ซ้อนกันแต่สั้น ยาวลดหลั่น ทำให้ดูเป็นรูปเหลี่ยมชั้น ในสุดจะนุ่ง กางเกงขาสั้น ๆ เสื้อยาวถึงข้อเท้า
หญิง เสื้อผ้าของผู้หญิงเปลี่ยนแปลงน้อยมาก เนื่องจากเกิดความไม่สงบภายในบ้านเมือง การแต่งกายจึงหยุดชะงักลงชั่วระยะหนึ่ง
ยุคที่ 3 New Kingdom
ยุคใหม่ เสื้อผ้าของชายหญิงได้เปลี่ยนแปลงไป ชาวซีเรียนเคยยกทัพมาตีอียิปต์ ทำให้ ชาวอียิปต์ลอกเลียนแบบการแต่งกายบ้าง เช่น ใส่ชุดยาวคร่อมเท้าเสื้อคลุมไหล่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งแต่ เดิมคลุมไหล่เพียงข้างเดียว การใช้ผ้าคลุมไหล่และแขนคล้ายเสื้อทำให้ดูไม่เปลือยแต่ผ้าที่ใช้คลุม ก็บางและลงแป้งจนแข็งทำให้เห็นรูปร่างได้ถนัด ผ้านุ่งก็ยังนิยมจีบ ในแผ่นดินยุคใหม่ มีกษัตริย์ คือ อเมนโอเทปที 4 “Amentotep IV” เป็นคนไม่เชื่อของเก่า นับถือพระอาทิตย์ พระราชินี แต่งองค์ด้วยชุดยาวถึงมีการจีบเป็นชั้น ๆดูนิ่มนวลขึ้น ถ้าเป็นชาวบ้าน ไม่ใส่รองเท้าเพราะรองเท้าใช้เฉพาะกษัตริย์ และพระสงฆ์การแต่งกายของพระสงฆ์ แต่งเหมือนกับกษัตริย์ แต่มีสัญลักษณ์ที่ต่างกัน คือ พระห่ม หนังเสือทั้งตัว มีหางติดอยู่ด้วย
พวก Upper Egypt จะสวมหมวกสีขาว
พวก Lower Egypt สวมหมวกแดง หน้าหมวกประดับด้วยงู
ในยุคใหม่นี้ตอนปลายสมัยเสื้อผ้าที่นิยมสีสันสดใสฉูดฉาด และมีจีบจะหายไปเนื่องจาก ได้รับอิทธิพลจากชาวเอเซียบ้าง จะใช้ครุย ใช้ดอกไม้ เครื่องประดับเพชรพลอยสีมาทำเป็นสร้อย คาดเอว และประดับที่คอมาใช้แทน ชาวอียิปต์เริ่มนิยมใช้แป้ง น้ำหอม น้ำมันเครื่องประดับผม ทาคิ้วสีเข้ม ใช้อายแชโดสีเขียว เหมือนในหนังคลีโอพัตรา ชายไม่มีหนวด ถ้ามีงานพิธีจะใส่หนวดปลอม ผมใช้วิกทำด้วยขนสัตว์ หรือผมปลอม หรือฝ้ายประดับด้วยงู ปลายยุคใหม่จะทำผม ทรงรูปสามเหลี่ยม เครื่องประดับ ใช้พัดขนนก สร้อยทอง หินสีน้ำเงินเส้นใหญ่ คล้องคอ คาดเอว กระจก รองเท้ากษัตริย์ทำจากต้นปาล์ม