ข้อมูลเที่ยวออสเตรเลีย : โขดหินอุลูรู (หินแอร์ส) รัฐนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี่ Uluru (Ayers Rock) Nord Northern Territory.

ข้อมูลเที่ยวออสเตรเลีย :  โขดหินอุลูรู (หินแอร์ส) รัฐนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี่  Uluru (Ayers Rock) Nord Northern Territory.

ประเทศออสเตรเลีย (Australia) คืออีกหนึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยวไม่แพ้ประเทศใดๆในโลก โดยเฉพาะที่ "อุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา" (Ulu?u-Kata Tju?a National Park) อุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของดินแดนนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี (Northern Territory) ดินแดนที่ครอบคลุมพื้นที่ ทางตอนเหนือและตอนกลางของทวีปออสเตรเลีย (Australia Continent) มีเมืองดาร์วิน (Darwin) เป็นเมืองหลวงของดินแดน อุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทา เป็นอุทยานที่มีรูปโฉมพิเศษทางธรณีวิทยาที่มีความเด่นอยู่ท่ามกลางที่ราบทรายแดงแห้งแล้งอันกว้างใหญ่ไพศาลของ ออสเตรเลียตอนกลาง และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (Unesco) ในปี 1987 โดยมี โขดหินอูลูรู (Uluru) หรือ หินแอร์ส (Ayers Rock) และ คาตา ทจูทา (Kata Tju?a) เป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญและยังเป็นส่วนของระบบความเชื่อทางประเพณีของสังคมที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อีกด้วย นอกเหนือจากโขดหินที่มีวคามสำคัยทางประวัติศาสตร์และประเพณีโบราณของชาวอะบอริจินแล้วนั้น อุทยานแห่งชาติอูลูรู-คาตา ทจูทายังเป็นที่ตั้งของ "น้ำ ตกอูลูรู" (Uluru Waterfalls) น้ำตกที่คุณจะสามารถพบเห็นได้ในช่วงหน้าฝนและจะมีน้ำมากในช่วงหลังฝนตก และหลังจากนั้นน้ำที่ไหลลงมาเป็นน้ำตก ก็จะ ค่อยๆเหือดหายไป 
 

ดังนั้นหากนักท่องเที่ยวท่านใดที่คาดหวังว่าจะมาชมน้ำตก ขอแนะนำให้มาในช่วงฤดูฝนเท่านั้นนะคะ เพราะหากมาในช่วงฤดูอื่นคุณอาจต้องผิดหวัง เพราะ น้ำตกแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากฝนเท่านั้น และน้ำตกจะค่อยๆหายไปพร้อมฤดูฝนเช่นกันค่ะ การกำเนิดของโขดหิน โขดหินอุลูรูจริงๆแล้วเป็นส่วนหนึ่งของยอดเขา ซึ่งจมอยู่ใต้ดินลึกลงไปถึง 6 กิโลเมตร โดยโขดหินนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของพื้นมหาสมุทรเมื่อประมาณ 550 ล้านปีที่แล้วตรงใจกลางทวีปออสเตรเลีย ต่อมาน้ำในมหาสมุทรลดลง เปลือกโลกก็เคลื่อนตัวดันให้โขดหินโผล่ขึ้นมา

ความเชื่อของชาวอะบอริจินี ตำนานของชาวอะบอริจินีกล่าวไว้ว่าโขดหินอุรูลูเป็นภูมิประเทศเส้นทางแห่งความฝัน บรรพบุรุษสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยจูคูร์ปา (ยุคแห่งช่วงฝัน) ซึ่งเป็นพื้นพิภพกำลังก่อตัว ในยุคนั้นบริเวณแถบโขดหินอุลูรูเป็นถิ่นของมนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้และมนุษย์งูคาร์เป็ต ครั้งหนึ่งมนุษย์งูคาร์เป็ตถูกมนุษย์งูพิษรุกรานซึ่งพวกมนุษย์งูพิษเป็นศัตรูจากแดนใต้ และพวกมนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้ก็ได้เข้ามช่วยเหลือมนุษย์งูคาร์เป็ต โดยหัวหน้าเผ่ามนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้โดยเจ้าแม่บูลาริก็ได้เป่าพิษร้ายแห่งความตายและเชื้อโรคเข้าใส่ศัตรู นอกจากนี้ยังมีตำนานที่เล่ากันอีกว่ามนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้นี้ได้ถูกศัตรูรุกรานโดยการปล่อยหมาป่าดิงโก้ ออกมากัด แต่โชคดีที่มนุษย์ครึ่งกระต่ายหลบหนีได้เพราะสามารถกระโดดได้ไกลกว่า และปัจจุบันนี้ชาวอะบอริจินีเชื่อว่าร่างของมนุษย์ครึ่งงูพิษถูกสาปให้กลายเป็นโขดหินอุลูรู และรอยน้ำไหลที่ด้านหนึ่งของหินเป็นรอยเลือด ส่วนรอยเท้ามนุษย์ครึ่งกระต่ายครึ่งจิงโจ้นั้นที่ทิ้งไว้ขณะวิ่งหนีศัตรูได้กลายเป็นถ้ำทั้งหลายที่ฐานโขดหิน