ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น : เทศกาลชมดอกซากุระ หรือฮะนะมิ (Hanami)
ข้อมูลเที่ยวญี่ปุ่น : เทศกาลชมดอกซากุระ หรือฮะนะมิ (Hanami)
เทศกาลชมดอกซากุระ หรือฮะนะมิ (Hanami) เพิ่งจะผ่านพ้นไป หลังจากที่ดอกซากุระเบ่งบานและร่วงโรยไปได้ไม่นานนักในดินแดนอาทิตย์อุทัย ฤดูใบไม้ผลิในขณะนี้ได้นำเอาความสดใสมาสู่ประเทศญี่ปุ่นให้ทุกคนได้แช่มชื่นไปกับบรรยากาศอันงดงามทั่วทั้งเกาะ แม้ดอกซากุระจะร่วงโรยไปแล้ว แต่บน "เกาะฮอกไกโด" เกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น และเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศรองจากเกาะฮอนชูนั้น ก็กำลังจะมีดอกไม้หลากชนิดที่สวยงามไม่แพ้ดอกซากุระเบ่งบานให้ทุกคนได้ชื่นชมในความงามกันต่อ ฮอกไกโดนั้นเป็นทั้งชื่อเกาะและชื่อจังหวัด ส่วนเมืองหลวงของจังหวัดนี้ก็คือเมืองซัปโปโร เป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมือง และเนื่องจากพื้นที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศ เกาะฮอกไกโดจึงมีอากาศเย็นจัดในฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) ซึ่งในช่วงนี้เองที่จะมีการจัดงานเทศกาลหิมะอันมีชื่อเสียงขึ้นที่สวนสาธารณะโอโดริ ในเมืองซัปโปโร ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศบนเกาะฮอกไกโดก็กำลังเย็นสบาย และถือเป็นฤดูท่องเที่ยวของที่เกาะนี้ด้วยเพราะดอกไม้หลากชนิดหลากสีสันจะผลิบานอวดความสวยงาม แต่จะเป็นดอกอะไร บานที่ไหนบ้างนั้น ไปชมกันเลยดีกว่า พรมสีชมพูจากดอกมอส ฟล็อกซ์เริ่มกันที่เมืองฟุระโนะ ชมเนินเขาสีม่วงละลานตาจากดอกลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งเต็มเนินเขา ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ไม่ว่าใครที่ได้ไปเห็นก็เป็นต้องประทับใจกับความงดงาม อีกทั้งกลิ่นหอมของดอกลาเวนเดอร์ ดอกไม้สีม่วงซึ่งมักจะถูกนำไปผลิตเป็นน้ำหอม น้ำมันหอมระเหย หรือเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางต่างๆ ทั้งครีมทาผิว ครีมอาบน้ำ ฯลฯ นั้น ก็ยังเป็น "กลิ่นบำบัด" (Aromatherapy) ที่ช่วยคลายเครียด ทำให้นอนหลับสบาย จิตใจสงบอีกด้วย เรียกว่านอกจากจะดูเป็นอาหารตาแล้ว กลิ่นหอมๆ ที่ฟุ้งไปทั่วบริเวณก็ยังช่วยทำให้จิตใจสบายอีกต่างหาก
สำหรับคนที่กำลังอยู่ในห้วงแห่งความรัก มองทุกอย่างเป็นสีชมพูไปหมด หากได้มาที่เมืองทะคิโนะอุเอะ หรือที่ทะคิโนะอุเอะ พาร์ค เมืองทางฝั่งตะวันออกของเกาะฮอกไกโด ก็ยิ่งจะเห็นโลกเป็นสีชมพูแสบตามากยิ่งขึ้นไปอีกจากดอกมอส ฟลอกซ์ (Moss Phlox) หรือชิบะซากุระ (Shiba Sakura) สีชมพูหวาน ที่ขึ้นเป็นบริเวณกว้างพอๆกับสนามฟุตบอล 14 สนามเลยทีเดียว มองดูเผินๆ เหมือนทั่วบริเวณถูกปูไปด้วยพรมสีชมพูนุ่มๆ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมหวานสมตัวอีกด้วย หากใครอยากชมก็สามารถมาชมได้ในช่วงนี้จนถึงต้นเดือนมิถุนายน แต่หากใครอยากได้บรรยากาศแบบสดใสสุดๆ จากดอกไม้สีเหลืองสด ก็ต้องมาที่เมืองทาคิคาวะ ที่มีทุ่งดอกเรพที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และจะบานในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายน ดอกเรพสีเหลืองสดใสตัดกับสีของท้องฟ้าในหน้าร้อน คงจะงดงามติดตาตรึงใจผู้ที่ได้พบเห็นแน่นอน และนอกจากนั้น ทุ่งดอกเรพในเมืองทาคิคาวะก็ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การสาธิตการทำขนมเค้กโมจิดอกเรพ (เค้กข้าวเหนียว) และการสกัดน้ำมันจากเมล็ดดอกเรพ อีกทั้งยังสามารถซื้อน้ำมันดอกเรพและน้ำสลัดไปเป็นของกินของฝากได้อีกด้วยทุ่งดอกเรพสีเหลืองสดใส แต่ที่โรแมนติกสุดๆ ก็ต้องมาชมกุหลาบบานที่เมืองอิวามิซาวะ ในสวนกุหลาบอิวามิซาวะ พาร์ค ที่มีต้นกุหลาบกว่า 22,000 ต้น บานชูดอกไสว ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณในพื้นที่กว่า 40,000 ตารางเมตร โดยดอกกุหลาบเหล่านี้ก็มีอยู่ทั้งหมด 243 สายพันธุ์ด้วยกัน ที่น่าสนใจก็เช่น พันธุ์มาเรีย คาลัส (Maria Callas) ซึ่งตั้งชื่อตามนักร้องโซปราโนที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น และดอกกุหลาบญี่ปุ่นพันธุ์เซกะ (Seika) มิวะกุ (Miwaku) และพันธุ์ Scarlet Iwamizawa ซึ่งเป็นกุหลาบสายพันธุ์เฉพาะของเมืองนี้ ถ้าได้จูงมือคนรักมาชมและดอมดมกลิ่นหอมๆ เย้ายวนของดอกกุหลาบคงจะเหมาะสมที่สุด และอีกเมืองหนึ่งทางฝั่งตะวันออกของเกาะ อย่างเมืองคามิยุเบทสึ (Kamiyubetsu) ที่นี่เราสามารถชมทุ่งดอกทิวลิปได้โดยไม่ต้องไปไกลถึงเนเธอร์แลนด์ เพราะที่นี่จะมีการจัดเทศกาลงานแสดงดอกทิวลิปขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งมีดอกทิวลิปให้ชมกันมากถึง 1,200,000 ดอก จาก 120 สายพันธุ์ และหลากสีสัน ทั้งแดง ส้ม ชมพู ขาว ม่วง จัดวางไล่สีกันจนบอกไม่ถูกเลยว่าสีไหนสวยกว่ากัน
ส่วนคนที่ชื่นชอบความงดงามของดอกอะซะเลีย หรือกุหลาบพันปี ที่เกาะฮอกไกโดนี้ก็มีให้ชมกันถึงสองแห่ง คือที่เมืองคิตะมิ ซึ่งจะมีเทศกาลชมดอกอะซะเลียของบ่อน้ำพุร้อนอนเนะยุ (Onneyu) ในช่วงเดือนพฤษภาคม ที่นี่จะมีดอกอะซะเลียทั้งสีขาว สีชมพู แต่ที่โดดเด่นคือดอกอะซะเลียสีม่วงซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติล้ำค่าทางธรรมชาติของฮอกไกโด บานชูช่อไสวไปทั่วบริเวณ ส่วนที่เมืองเทชิคางะ (Teshikaga) จะเป็นสถานที่ชมดอกอะซะเลียสีขาว โดยจะมีเส้นทางเดินชมธรรมชาติอิโอซัน ชมความงดงามของภูเขาอิโอ และดอกอะซะเลียสีขาวดูน่าทะนุถนอม การเดินชมในเส้นทางนี้มักจะเดินกันตั้งแต่ช่วงเช้ามืดไปจนถึงรุ่งเช้า จึงจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นๆและสายหมอกขณะชมดอกไม้ไปด้วย สามารถชมกันได้ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน-ต้นเดือนกรกฎาคม นอกจากนั้นแล้ว ในเมืองอีกหลายเมืองในเกาะฮอกไกโดก็ยังมีดอกไม้สวยๆ และกิจกรรมอีกมากมายให้เลือกทำกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวในเมืองวัคคะไน ชมดอกไม้ เช่นดอกกุหลาบที่จะบานอยู่ริมชายหาด เพิ่มสีสันให้กับท้องทะเลให้สวยงามยิ่งขึ้น และที่เมืองนี้ยังจะได้อร่อยกับอาหารทะเลสดๆ ไม่ว่าจะเป็นหอยเชลล์ ปลาหมึก และปลาสดๆ อีกหลายชนิด หรือจะไปที่เมืองชินโทคุชมดอกไม้สีชมพูอ่อนของต้นบ๊วย กว่า 1,600 ต้น ในสวนที่มีพื้นที่ 8 เอเคอร์ ใกล้ ๆ สวนยังมีแนวต้นซากุระ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมทั้งดอกซากุระ และดอกบ๊วยบานในเวลาเดียวกันหรือจะไปชมชุนคุนิไต หรือสันดอนทรายในเมืองเนมุโระ ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคมจะเป็นช่วงที่ดอกกุหลาบบาน อีกทั้งที่นี่ยังเป็นจุดดูนก เพราะเป็นที่อพยพของนกป่า ซึ่งจะมีนกประมาณ 250 ชนิด อพยพมาในแต่ละปีอีกด้วย