ข้อมูลเที่ยวลาว : หลวงพระบาง (Louangphabang)

ข้อมูลเที่ยวประเทศลาว : หลวงพระบาง (Louangphabang)

 

หลวงพระบางในอดีตเคยเป็นราชธานีศรีสัตนาคนหุตแห่งอาณาจักรล้านช้าง จึงทำให้เมืองนี้ เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งล้านนาเก่าๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือวัฒนธรรม แต่เดิมนั้นเมืองหลวงพระบาง มีชื่อว่าเมืองชวา อันเนื่องมาจากมีชาวชวาอาศัยอยู่มากกว่ากลุ่มอื่นต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเมืองใหม่ว่า เชียงทอง เรื่อยมา จนกระทั่ง กษัตริย์ขอมได้พระราชทานพระพุทธรูปองค์หนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า พระบาง เป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหล เจ้าฟ้างุ้มจึงทรงเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น "หลวงพระบาง" ปัจจุบันเมืองหลวงพระบางมีประชากประมาณห้าแสนคน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเมืองหลวงพระบาง ตั้งอยู่ทางเหนือของนครเวียงจันทน์ ระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตร เชื่อมต่อถึงกันด้วยทางหลวงหมายเลข 13 ใช้เวลาเดินทางราว 8 – 10 ชั่วโมง เนื่องจากถนนที่ไม่ดีนัก อย่างไรก็ตาม มีเครื่องบินจากนครเวียงจันทน์ถึงหลวงพระบางโดยสายการบินลาว ใช้เวลาบินประมาณ 45 นาที อย่างที่เกริ่นไปแล้วเบื้องต้นว่า หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกด้วยเหตุผล คือ มีวัดวาอารามเก่าแก่มากมาย มีบ้านเรือนอันเป็นเอกลักษณ์โคโลเนียลสไตล์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมน้ำโขงและน้ำคาน ซึ่งไหลบรรจบกันท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และชาวหลวงพระบางมีบุคลิกที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นมิตรมีขนบธรรมเนียมประเพณีที่งดงาม ในขณะที่มรดกโลกแห่งอื่นอาจได้ขึ้นทะเบียนอย่างจำเพาะเจาะจงในโบราณสถาน ธรรมชาติ แต่หลวงพระบางทั้งเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกของมวลมนุษยชาติเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2538 และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองที่ได้รับการปกปักษ์รักษาที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 


 

วัดเชียงทอง ถือเป็นตัวอย่างสถาปัตยกรรมล้านช้าง ณ เมืองพระบาง มีหลังคาซ้อน 3 ชั้น รูปทรงหลังคาผายกว้างออกเรียกว่าหลังคาปีกนก ทั้งภายในและภายนอกสิม(อุโบสถ)ล้วนมีจิตรกรรมฝาผนังเป็นลายรดน้ำลงรักปิดทองเป็นเรื่องราวนิทานพื้นบ้านและเรื่องเกี่ยวกับศาสนา และหากเดินมาทางด้านหลังสิมก็จะเห็นลวดลายประดับกระจกสีเป็นรูปต้นไม้ใหญ่ มีนกและสัตว์นานาชนิด ซึ่งต้นไม้นั้นก็คือต้นทอง หรือต้นงิ้ว ที่พระเจ้าศรีสว่างวัฒนาได้โปรดฯ ให้ช่างทำไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึง ชื่อเชียงทอง หมายความถึง ป่าต้นทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ดั้งเดิมบริเวณนี้นั่นเอง 

 

และสำหรับใครที่ได้มาวัดแห่งนี้ สิ่งที่ไม่ควรพลาดชมก็คือ หอพระม่านและหอพระพุทธไสยาสน์ที่อยู่ด้านหลังสิม หอพระเล็กๆ สองหลังนี้ทาด้วยสีชมพู ประดับตกแต่งด้วยกระจกสีเป็นลวดลายเล่าเรื่องราวนิทานพื้นบ้านของลาว หากลองเดินดูใกล้ๆ ก็จะได้เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวลาวผ่านรูปภาพเหล่านั้นด้วย  

ทัวร์แนะนำ ที่คุณอาจจะสนใจ