ข้อมูลเที่ยวจีน : สกุลเงินจีนเก่า สัญลักษณ์สำหรับ CNY สามารถเขียนได้ Y, 元
เงินจีนโบราณ สัญลักษณ์สำหรับ CNY สามารถเขียนได้ Y, 元
เหรียญดังกล่าวได้ปรากฏที่ประเทศในยุโรปและประเทศอินเดีย สำหรับในประเทศจีนเองได้มีการใช้เหรียญดังกล่าวนี้มานานกว่า 2,000 ปี โดยมีรูปแบบอย่างเดียวกันตลอดมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จะมีเหรียญออกมาใช้ การติดต่อค้าขายของจีนในสมัยโบราณก็ไม่แตกต่างไปจากชนชาติอื่นแต่อย่างใด นั่นคือมีการค้าขายกันแบบสินค้าต่อสินค้า เช่น เอาพืชผลทางการเกษตรคนละประเภทมาแลกกัน หรือเอาพืชผลทางการเกษตรแลกกับเครื่องมือต่างๆ
เช่น แลกกับจอบ เสียม หรือมีด
ประมาณ 1,200 ปี คริสตศักราช ได้มีการนำเปลือกหอยเบี้ยมาใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้า นอกจากนี้ก็มีกระดูก
สัตว์ หยก ไข่มุก และเบี้ย เบี้ยนี้เป็นเปลือกหอยชนิดหนึ่ง ต่อมาทางเมืองโฮ่ หนานได้หล่อด้วยโลหะแทน เมื่อประมาณ 600 - 700 ปี ก่อนคริสต-ศักราช การค้าแบบแลกสินค้าซึ่งกันและกันได้เปลี่ยนไปใช้จอบและมีดจำลองขนาดเล็กแทนเงินตราในการซื้อขายสินค้า ซึ่งใช้กันมากที่สุดทางภาคเหนือของจีน เพราะเห็นว่าเงินจอบและมีด หรือเรียกว่า เงิน “พู” นั้นสะดวกแก่การพกพา และกลายเป็นแฟชั่นเป็นอย่างดี เพราะสามารถเอาเงินตราดังกล่าวที่มีรูเล็กๆ อยู่ข้างบนหลายๆ อันมาร้อยรวมกัน เงินมีดและจอบจะมีรูปลักษณะและขนาดแตกต่างกันออกไป แต่ที่เหมือนกันก็คือจะมีชื่อสถานที่ และบางทีก็มีน้ำหนักและราคาด้วย ส่วนขนาดแตกต่างกันจะตกอยู่ที่ความยาวระหว่างห้านิ้วถึงเจ็ดนิ้ว เงินทั้งสองรูปแบบนี้มีใช้กันแพร่หลายในจังหวัดซานตุง ชานสี โฮ่หนาน และซิหลี ส่วนทางเหนือของจีนสมัยโบราณจะใช้เงินเหรียญที่ทำด้วยโลหะกลม มีรูกลมอยู่ตรงกลางภายหลังเปลี่ยนเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส และรูปแบบนี้ใช้มานานถึง 2,500 ปี ไม่มีใครบอกได้ว่าเหรียญกลมที่ใช้ในประเทศจีนเริ่มมีมาแต่เมื่อไรแต่ตามที่มีบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์สมัยราชวงศ์ฮั่นกล่าวว่า อัครเสนาบดีไต้กงมีชีวิตอยู่ประมาณ 1,100 ปี ก่อนคริสตศักราช ได้ตั้งหลังมหาสมบัติขึ้น เก้าแห่งเพื่อผลิตเหรียญกลมมีรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสอยู่ตรงกลาง บ้างก็ถวายพระเกียรติให้จักรพรรดิฉี ฮ่วงตี่ ซึ่งครองราชย์เมื่อ 221-209 ปี ก่อนคริสตศักราช และทรงสร้างกำแพงเมืองจีนว่า พระองค์ทรงให้หล่อเหรียญสัมฤทธิ์และเหรียญทองแดงโดยมีคำว่าหั่นเสียง หมายถึงน้ำหนักเท่ากับ 12 ฉู หรือครึ่งออนซ์ นับว่าเป็นเหรียญที่มีน้ำหนักและคุณภาพดีมาก และใช้กันมากในสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปี ก่อนคริสตศักราช - ค.ศ. 220)
ต่อมาจักรพรรดิไม่ทรงสามารถควบคุมการผลิตเหรียญได้ ประจวบมีโรงกษาปณ์เอกชนตั้งขึ้น ค่าของเหรียญจึงลดลง แม้ว่าจักรพรรดิ ทุกพระองค์จะทรงพยายามควบคุมกระแสการหมุนเวียนของเหรียญแต่ไม่ประสบความสำเร็จ หัวหน้ากบฏเล็ก ๆ ในราชอาณาจักรก็สามารถผลิตเหรียญออกมาหลายครั้งหลายหน ในช่วงเวลานี้เหรียญที่ผลิตออกมามีน้ำหนักเบาลง ถึงกับเรียกกันว่าเหรียญ “ใบไม้” ในขณะเดียวกันเหรียญจะมีความแตกต่างกันทั้งขนาดและน้ำหนัก มีเหรียญเป็นจำนวนมากที่ไม่ได้มาตรฐานของทางราชการ
โดยเฉพาะน้ำหนักต่ำกว่าพิกัด เงินมีดและจอบซึ่งเป็นเหรียญเก่าแก่ที่สุดของจีนนั้น แบบที่หล่อทำด้วยดินเหนียว ทำทีละด้านและเอาเชื่อมกัน วิธีนี้ใช้ เป็นแบบหล่อได้ครั้งเดียวเท่านั้นก็ต้องเลิกใช้ ต่อมาได้ใช้แบบหล่อทำด้วยหินและด้วยสัมฤทธิ์ จึงสามารถใช้หล่อได้หลายครั้ง การผลิตเหรียญได้พัฒนาการเรื่อยมาจนถึงต้นคริสตวรรษที่ 20 ได้มีการนำเอาโลหะผสมมาทำเหรียญ บางครั้งก็ทำด้วยสัมฤทธิ์ ทองแดง สังกะสี ตะกั่ว ดีบุก และทองเหลือง ส่วนเหรียญทองคำและเหรียญเงิน เชื่อกันว่ามีออกเหมือนกันในคริสตวรรษที่ 10 แต่คงจะน้อยมาก จึงไม่เหลือให้ได้เห็นได้ในปัจจุบัน