ข้อมูลการเดินทางเที่ยวภูฎาน

การเดินทางไปภูฏาน

 

การเดินทางโดยเครื่องบิน

การเดินทางไปภูฏานมีสายการบินเดียวที่บินจากรุงเทพฯ ไปภูฏาน เป็นสายการบินแห่งชาติภูฏาน คือ สายการบิน ดรุกแอร์ มีเส้นทางบิน จากไทยไปภูฏาน 5 เที่ยว คือ อังคาร พุธ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ และ มีเที่ยวบินมาไทยสัปดาห์ละ 4 เที่ยว คือจันทร์ พฤหัสบดี ศุกร์ และเสาร์ (สายการบินดรุกแอร์ เว็บไซต์ www. drukair.com.bt โทร. 02-535-1960

สายการบินดรุกแอร์ เริ่มดำเนินกิจการในปี ค.ศ. 1983 ด้วยเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ Dornier 288 ขนาด 17 ที่นั่งเพียงลำเดียว ครั้นมาถึงปี ค.ศ. 1997 มีทั้งหมด 3 ลำ ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ซื้อมาจากรัสเซีย อีก 2 ลำเป็น BAE 146 Four Engine Jets ขนาด 72 ที่นั่ง มี 10 ที่ในชั้นธุรกิจและ มี 62 ที่ในชั้นประหยัด สายการบินดรุกแอร์ บินระหว่างประเทศเพียง 5 ประเทศ คือ อินเดีย เนปาล บังคลาเทศ พม่า และ ไทย เท่านั้น ซึ่งพนักงานสายการบินดรุกแอร์ล้วนเป็นชาวภูฏานทั้งสิ้น โดยได้รับการฝึกอบรมจากการบินไทย

สนามบินภูฏานมีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือสนามบินปาโร อยู่ห่างจากเมืองทิมพู 65 กิโลเมตร ในระหว่างฤดูมรสุม อากาศมักจะแปรปรวน สนามบินปาโรอยู่ท่ามกลางภูเขา การขึ้นลงของเครื่องบินนั้น นักบินจะต้องอาศัยทัศนวิสัยที่ปลอดโปร่ง (นักบินจะต้องมองเห็นลานบินก่อนจึงจะทำการบินขึ้นหรือบินลงได้) ดังนั้น กำหนดการบินของสายการบินดรุกแอร์ อาจเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ นักท่องเที่ยวจึงควรเผื่อเวลาในการเดินทางอยู่ในภูฏาน และเวลาสำหรับการต่อเครื่องบินที่สนามบินอื่นในกรณีที่เครื่องบินอาจเสีย เวลาไว้ด้วย

 

การเดินทางโดยรถยนต์

สามารถทำได้โดยเข้าทางด้านชายแดนติดประเทศอินเดียทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ที่เมืองพุนโชลิง ซึ่งห่างจากเมืองทิมพูประมาณ 175 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางกว่า 7 ชั่วโมง

สำหรับจากเมืองพาโร เดินทางโดยรถยนต์ไปยังเมืองหลวงทิมพู ระยะทาง 55 กิโลเมตร ใช้เวลาชั่วโมงครึ่ง สำหรับเส้นทางท่องเที่ยวมีทางรถยนต์ไปทางตะวันออกสายเดียว คือ ทิมพู-วังดี-ปูนาคา และ วังดี-ตองสา-บุมธัง

ภูฏานมีถนนลาดยางเส้นยาวเชื่อมเมืองสำคัญๆ ในเขตแคว้นต่างๆ จากทิศตะวันตกสู่ทิศตะวันออก และจากเหนือสู่ใต้ แต่ถนนในภูฏานจะค่อนข้างชันและมีโค้งมาก

 

การคมนาคมในภูฏาน

พาหนะที่ใช้เดินทางในภูฏานใช้รถยนต์ เท่านั้น ถนนสายหลักของภูฏานมีสายเดียวคือ ถนน National Highway ถนนกว้าง 3 เมตรครึ่ง ที่มีเส้นทางผ่านเมือง ผ่านป่าเขา ข้ามแม่น้ำหลายสายที่มีมากมายในภูฏานการเดินทางท่องเที่ยวที่รักความสะดวกสบาย แต่สนุกและได้ประสบการณ์หลากหลายสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการท้าทาย สำหรับนักท่องเที่ยว บริษัททัวร์ในภูฏานจะเป็นผู้จัดการพาหนะในการเดินทางระหว่างอยู่ในภูฏานเท่า นั้น ซึ่งรถยนต์ที่นิยมใช้คือรถมินิแวน รถจี๊ป และรถโฟร์วีล (ภูฏานไม่มีสนามบินภายในประเทศ ไม่มีทางรถไฟ ดังนั้น การคมนาคมที่ใช้กันอยู่เป็นประจำคือ ใช้รถยนต์และการเดินเท้า) มีบริษัททำธุรกิจให้เช่ารถมอเตอร์ไซค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากขี่ มอร์เตอร์ไซค์ แต่ด้วยสภาพถนนและสภาพอากาศที่มักจะแปรปรวนและมีฝนตกบ่อยๆ ทำให้รถมอเตอร์ไซค์เป็นพาหนะที่ค่อนข้างอันตราย ทั้งจากสภาพถนนที่เกือบทุกสายเป็นเหมือนทางเกวียน และอันตรายจากรถบรรทุก ที่ขับกันแบบไม่คำนึงถึงกฎจราจรใดๆ ทั้งสิ้น การขี่มอเตอร์ไซค์ในภูฏานจึงเปรียบเสมือนการเอาชีวิตไปเสี่ยงโดยใช่เหตุ

รถแท็กซี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการเดินทางในภูฏาน ปกติแท็กซี่ในภูฏานจะติดมิเตอร์ทุกคัน ค่าโดยสารต่อเที่ยวอยู่ที่ระหว่าง 30-50 นู สำหรับเส้นทางภายในเมืองทิมพู ค่ารถแท็กซี่จากทิมพูไปที่ชายแดนเหมาจ่ายเที่ยวละประมาณ 800-1,000 นู      

 

วีซ่าภูฏาน

การขอวีซ่านักท่องเที่ยวจะทำได้โดยการติดต่อผ่านทางบริษัทท่องเที่ยวเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนการท่องเที่ยวในภูฏาน นักท่องเที่ยวไม่สามารถขอวีซาและเดินทางไปตามลำพังได้ด้วยตนเอง ประเทศภูฏานไม่รับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตามลำพังคนเดียว (นอกจากเป็นแขกรับเชิญ) ซึ่งนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางเฉพาะกลุ่มเป็นหมู่คณะโดยผ่านบริษัทท่องเที่ยวในภูฏานเท่านั้น    

 

การขอวีซ่าภูฏาน

สถานฑูตภูฏานทุกแห่งในทุกประเทศจะไม่ทำหน้าที่ใดๆ เกี่ยวกับการออกวีซ่าเข้าภูฏาน ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่พิจารณาการอนุมัติวีซ่าเข้าภูฏาน มีหน่วยงานเดียวคือ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งภูฏาน สังกัดกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม มีสำนักงานอยู่ที่เมืองทิมพู สามารถติดต่อได้ที่ : Departnebt of Tourism , P.O. Box.126, GPO Thimphu, Bhutan โทรศัพท์ (975-2) 323 251, 323 252 แฟกซ์ (975-2) 323-695 อีเมล์ dot@tourism.gov.bt เว็บไซต์ www.tourism.gov.bt
เอกสารที่ใช้สำหรับขอวีซ่าเข้าประเทศภูฏาน
หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานอย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว หน้าตรงรูปสีจำนวน 1 รูป

การเข้าไปท่องเที่ยวในภูฏาน นักท่องเที่ยวต้องติดต่อกับบริษัททัวร์เพื่อให้ดำเนินการขอ Visa โดยค่าใช้จ่ายภูฏานกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องใช้จ่ายอย่างน้อย USD200 ต่อวัน ซึ่งเป็นค่าธรรมเนียมที่กำหนดโดยรัฐบาลภูฏาน ซึ่งจะรวมค่าที่พัก ค่าพาหนะ ค่าไกด์ท้องถิ่น เอาไว้ด้วย ถ้าเดินทางจำนวนน้อยคน เช่น จะขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนต่ำกว่า 3 คน ก็จะต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกต่างหาก วีซ่านักเรียน นักศึกษา ได้ลดค่าธรรมเนียมเป็นพิเศษ ไม่รับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตามลำพังเป็นการส่วนตัว นอกจากจะเป็นแขกของรัฐบาลภูฏานเท่านั้น

เมื่อบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวดำเนินการขอวีซ่า จะต้องยื่นรายชื่อผู้ที่จะเดินทางเข้าภูฏานพร้อมกับเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมด ระหว่างที่อยู่ในภูฏาน ทาง DOT จะใช้เวลาพิจารณาการอนุมัติวีซ่าประมาณ 10-15 วัน ทำการ เมื่อผ่านการพิจารณาแล้ว จะส่งรายชื่อผู้ได้รับวีซ่าเข้าภูฏานกลับคืนไปให้บริษัททัวร์ ในใบอนุญาตจะมีเลขรหัสสำหรับแสดงต่อเจ้าหน้าที่ภูฏานในเวลาที่เดินทางเข้า ประเทส (ทางอากาศที่สนามบินปาโร ทางบกที่เมืองพูลโชลิง ด่านพรมแดนระหว่างอินเดียกับภูฏาน)

นักท่องเที่ยวจะต้องได้รับการอนุมัติวีซ่าเข้าภูฏานก่อนการเดินทาง และเมื่อถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองด่านแรกของประเทศภูฏาน เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารอนุมติวีซ่าที่ออกให้โดย DOT เมื่อเอกสารต่างๆ ถูกต้องแล้ว เจ้าหน้าที่จะประทับตราในหนังสือเดินทาง ซึ่งผู้เดินทางเข้าภูฏานจะต้องเสียค่าธรรมเนียมอีกคนละ 20 เหรียญสหรัฐฯ พร้อมกับรูปถ่าย 2 ใบ ให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองภูฏาน (เขียนชื่อกับเลขที่หนังสือเดินทางไว้ด้านหลังรูป)

การขอขยายเวลาอยู่ต่อในประเทศภูฏานจะสามารถทำได้โดยยื่นคำร้องต่อวีซ่าที่เมือง ทิมพู ต้องเสียค่าธรรมเนียมครั้งละ 510 นู อยู่ต่อได้นานถึง 6 เดือน
สถานทูตภูฏานในประเทศไทย

ที่อยู่ : 375/1 ซอยรัชดานิเวศน์ ประชาอุทิศ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม 10310 โทรศัพท์ : 02 - 274 4740 - 2 โทรสาร : 02- 274 4743 เวลาทำการ : จันทร์-ศุกร์ 09:00-17:00 น. https://www.bhutan.gov.bt

ศุลกากรภูฏานมีกฎหมายห้ามไม่ให้นำวัตถุโบราณ เช่น ทังกา (ของเก่า) พระพุทธรูป หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพืชและสัตว์ออกนอกภูฏาน ผู้เดินทางจะต้องสำแดงของใช้ส่วนตัวที่นำเข้าไปในภูฏาน เช่น กล้องถ่ายรูป กล้องถ่ายวิดีโอ คอมพิวเตอร์ และ เครื่องไฟฟ้า เป็นลายลักษณ์อักษรต่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรในวันที่เดินทางเข้า เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบจำนวนสิ่งของที่สำแดงไว้กับเจ้าหน้าที่ในเวลาที่เดิน ทางออกนอกประเทศภูฏาน นักท่องเที่ยวที่เดินทางออกจากภูฏานทางเครื่องบิน จะต้องเสียค่าภาษีสนามบิน คนละ 500 นู

ห้ามนำโบราณวัตถุ ชี (หินโมราฝังลายสีขาวถือเป็นอัญมณีล้ำค่าของภูฏาน) ไม้พุ่มไม้ดอกผีเสื้อ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของสัตว์ออกนอกประเทศภูฏาน รวมถึงศาสนวัตถุ ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ ทั้งพระพุทธรูป เทวรูป กระบอกมนต์ ผอบเก็บพระธาตุ ระฆังหรือวัชระ ฯลฯ ของที่ซื้อเข้าภูฏานจะต้องแจ้งให้มัคคุเทศก์ภูฏานทราบล่วงหน้า

 

สาเหตุที่ภูฏานจำกัดนักท่องเที่ยว สืบเนื่องมาจากสาเหตุหลัก 3 ประการคือ

  • สาธารณูปโภคและสาธารรูปการของภูฏานไม่เอื้ออำนวยที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวคราวละจำนวนมากๆได้ 
  • รัฐบาลภูฏานต้องการให้ธรรมชาติในภูฏานคงไว้ได้นานแสนนานที่สุด
  • เป็นพระประสงค์ของกษัตริย์องค์ปัจจุบันของภูฏาน ที่จะรักษาจารีตประเพณี ขนบธรรมเนียม ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมไว้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเรื่องการแต่งกาย และสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบภูฏาน

        

       

ทัวร์แนะนำ ที่คุณอาจจะสนใจ