​ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ สิงคโปร์

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ สิงคโปร์ | Singapore Travel Guide

สิงคโปร์ เมืองบนเกาะแห่งนี้ มีความสะอาดสะอ้านและเขียวชอุ่ม ถนนหนทางรายล้อมไปด้วยมวลดอกไม้หลากพันธุ์ เมื่อเดินทางเข้าเมือง จะได้สัมผัสกับบรรยากาศของตึกสูงระฟ้าที่ตั้งตระหง่านในย่านธุรกิจ ย่านช้อปปิ้งบนถนนออชาร์ด (Orchard) และ นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวเกาะสิงคโปร์ได้ทุกฤดูกาลด้วย เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง สิงคโปร์มีอากาศคล้ายกับทางตอนใต้ของเมืองไทย อากาศโดยรวมไม่แตกต่างกันมากนัก (คือร้อนนะค่ะ ยกเว้นว่าช่วงฤดูหนาวอาจจะร้อนน้อยหน่อย) ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล ทั้งนี้ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะจะมีมรสุมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม (ฝนตกเยอะ) ขณะที่ด้านตะวันตกเฉียงใต้จะมีมรสุมในช่วงเดือนพฤษภาคม-กันยายน (ฝนตกน้อย) ส่วนเสื้อผ้าไม่ว่าจะฤดูไหนควรเลือกแบบโปร่งสบาย เพราะจะช่วยคลายร้อนได้ดีค่ะ นอกจากนี้ก็ควรพกร่มแบบพับได้ติดตัวไปด้วย เพื่อป้องกันฝนฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แถมอีกนิด ก่อนจะวางแผนมาเที่ยว ให้ดูว่าช่วงที่มาตรงกับเทศกาลอะไรบ้าง จะได้สนุกสุดๆ กับทริปสิงคโปร์

สายการบินที่น่าสนใจ
สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ให้บริการไป-กลับกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ปัจจุบันเปิดให้บริการ 3 สายการบิน โดยสายการบินแรกที่ทางเราอยากแนะนำคือ สายการบิน Thai Air Asia ซึ่งมีเที่ยวบินตั้งแต่เช้าตรู่และกลับดึกๆ และราคาไม่แพง ถ้าช่วงปกติก็อยู่ราวๆ 5,000 กว่าบาท สายการบินต่อมาคือ Jet Star Asia ซึ่งเป็นสายการบินภายใต้การดูแลของ Qantas Air จากประเทศออสเตรเลีย โดยสายการบินนี้จะแตกต่างจากสายการบินต้นทุนต่ำทั่วไปตรงที่จะระบุที่นั่งแน่นอน แถมมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการด้วย ส่วนเวลาบินใช้ได้ แต่มีให้เลือกเพียง 2 เที่ยวเท่านั้น สุดท้ายสายการบิน Tiger Airways โลว์คอสต์สัญชาติสิงคโปร์ที่ให้บริการวันละ 2 เที่ยว แต่ราคาเกือบจะสูสีกับ Thai Air Asia แถมเวลาก็ไม่ขี้เหร่ด้วย หากได้โปรโมชันดีๆ การเลือกเดินทางด้วยสายการบินนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

ข้อมูลที่ควรรู้
1. วีซ่า สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่คนไทยสามารถเดินทางเข้าไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เพราะเป็นประเทศภาคีกันเมื่อในอดีต ซึ่งการเข้าประเทศแต่ละครั้งจะอยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน แต่ถ้าคุณต้องการขอวีซ่าไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อหรือทำงาน ก็สามารถทำเรื่องได้ที่สถานเอกอัครราชทูตสิงคโปร์ประจำประเทศไทยถนนสาทร 
2. เงินทองต้องรู้ ค่าเงินของสิงคโปร์จะมีหน่วยเรียกเป็นดอลลาร์สิงคโปร์ (S$) ส่วนหน่วยย่อยๆ ก็เรียกเป็นเซนต์ (Cent) แบ่งเป็นธนบัตรตามอัตราราคาดังนี้ S$2, S$5, S$10, S$20, S$50, S$100, S$500, S$1,000, S$10,000 และเหรียญกษาปณ์ตามอัตราดังนี้ 1, 5, 10, 20, 50 Cent และ S$1 โดยปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยน S$1 จะเท่ากับประมาณ 24 บาท ทั้งนี้เวลาแลกเงินควรบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอแบงก์ย่อยด้วย จะได้จับจ่ายได้สะดวก
3. โทรศัพท์ ถ้าเอาสะดวกสุดคงต้องใช้บริการ M Simcard ซิมที่สามารถใช้ได้กับมือถือทุกระบบ โดยผู้ที่ใช้บริการไม่ต้องไปเปิด Roaming ต่างแดนให้เสียเวลา (แค่ใส่ซิมที่มือถือของเราก็สามารถใช้โทร.ภายในสิงคโปร์และโทร.กลับมาเมืองไทยได้ทันที) ซึ่งซิมจะมีอายุการใช้งานนานถึง 6 เดือน และสามารถหาซื้อได้จากร้านที่จำหน่ายในเมืองไทยในราคาเพียง 690 บาทเท่านั้น
4. ไฟฟ้า ถึงประเทศสิงคโปร์จะใช้ไฟฟ้า 220-240 โวลต์เหมือนบ้านเรา แต่ปลั๊กไฟของที่นี่จะเป็นแบบ 3 ขาเหลี่ยม ดังนั้น หากอุปกรณ์ไฟฟ้าของเราไม่ใช่แบบ 3 ขาเหลี่ยม ก็ต้องหาซื้อตัวแปลงไปด้วย (ตามห้างสรรพสินค้าแผนกไฟฟ้า)
5. เวลาทำการ สำหรับเวลาเปิด-ปิดของธนาคารนั้นจะอยู่ที่เวลา 08.30-16.30 น. (วันจันทร์-ศุกร์ แต่บางที่ก็เป็น 11.00-17.00 น.) และ 08.30-13.00 น. (เฉพาะวันเสาร์ บางแห่งเปิดถึงเวลา 15.00 น. และบางแห่งไม่รับแลกเงินในวันนี้) ส่วนร้านค้าทั่วไปจะเริ่มเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. (ขึ้นอยู่กับย่าน อย่างไชน่าทาวน์จะเปิดเช้าปิดค่ำครับ)
6. บัตร Ez-Link บัตรอัจฉริยะที่สามารถใช้ชำระค่าโดยสาร ทั้งรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางสายต่างๆ ทั้งยังสามารถใช้เป็นบัตรเงินสดใน 7-11 ได้ด้วย โดยการใช้นั้นระบบจะตัดยอดเงินจากบัตร ทำให้สะดวกและไม่ต้องพกเงินสดติดตัวเยอะ ที่สำคัญยังได้ส่วนลดที่ถูกกว่าปกติด้วย ซึ่งคุณสามารถซื้อบัตร Ez-Link ได้ที่เคาน์เตอร์ของสถานีรถไฟฟ้าในราคา S$15 (เป็นค่าบัตร S$5 ค่ามัดจำ S$3 และมูลค่าในบัตรอีก S$7) และสามารถเติมเงินได้ตามสถานีรถไฟฟ้าทั่วไป
7. บัตร The Singapore Tourist Pass เดอะสิงคโปร์ทัวริสต์พาส (The Singapore Tourist Pass) เป็นบัตรเหมาจ่ายที่สามารถใช้บริการรถไฟฟ้าหรือรถโดยสารทั่วไปแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งด้วย โดยมีให้เลือกทั้งแบบ 1, 2 หรือ 3 วัน และคิดราคา S$18, 26, 34 ตามลำดับ (เป็นค่ามัดจำบัตร S$ 10)

พักที่ไหนดี
ที่พักในสิงคโปร์มีให้เลือกหลายระดับ ตั้งแต่ที่พักระดับห้าดาวไปจนถึงไม่มีดาวอย่างเกสต์เฮาส์ ซึ่งราคาค่อนข้างสูงหากเทียบกับฮ่องกงหรือมาเลเซีย (ถ้ามีเรื่องทำเลที่ตั้ง คุณภาพ และฤดูกาลเข้ามาเกี่ยวอีก ราคาก็จะถีบตัวสูงเลย) โดยจากประสบการณ์ของทางเรา หากคุณแค่จะใช้เป็นที่ซุกหัวนอน เก็บข้าวของให้ปลอดภัย ควรเลือกพวกเกสต์เฮาส์หรือโฮสเทลที่เดินทางสะดวก ปลอดภัย อยู่ในเมือง แต่ถ้ามีเงินทุน ติดความสบาย ก็เลือกพักโรงแรมตามย่านแหล่งท่องเที่ยวเลยค่ะ (ย่านที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพัก ได้แก่ ไชน่าทาวน์ ออร์ชาร์ด ลิตเติลอินเดีย และเกลัง)

การคมนาคม | สำหรับการเดินทางภายในสิงคโปร์นั้น คุณสามารถเลือกใช้บริการระบบขนส่งมวลชนหลักๆ ได้ 3 ประเภท คือ
รถไฟฟ้า/Singapore Mass Rapid Transit (MRT)
ระบบขนส่งที่คล้ายกับรถไฟใต้ดินบ้านเราและมีค่าโดยสารไม่แพง (อยู่ในช่วงราคา S$1-2. 10) โดยจะให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-00.06 น. สำหรับวันจันทร์-เสาร์ และ 05.59-00.06 สำหรับวันอาทิตย์และวันหยุดต่างๆ 

รถโดยสารประจำทาง (Bus)
ระบบขนส่งมวลชนที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้รถไฟฟ้าเลย ซึ่งจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. โดยมีทั้งแบบรถธรรมดาและรถปรับอากาศ สนนราคาไม่แพง ตกเที่ยวละ S$0.90-2.35 เท่านั้น

แท็กซี่ (Taxis)
มีให้เลือกตั้งแต่ระดับธรรมดาไปจนถึงระดับหรูอย่าง Limousines โดยราคาค่าโดยสาร 1 กิโลเมตรแรกเริ่มต้นที่ S$2.80 จากนั้นค่าโดยสารจะขึ้นอีก 10 เซนต์ทุกๆ 210 เมตร

เดินทางจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมือง | การเดินทางจากสนามบินชางฮีเข้าสู่ย่านที่พักในสิงคโปร์นั้นค่อนข้างสะดวก และสามารถทำได้ 3 วิธี คือ
MRT (Singapore Mass Rapid Transit)
การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าเป็นการเดินทางที่สะดวกรวดเร็ว และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมใช้กันมาก โดยสถานีรถไฟฟ้าจะตั้งอยู่ที่เทอร์มินัล 2 และ 3 ของสนามบินชางฮี ซึ่งจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 05.31-00.06 น. สำหรับวันจันทร์-เสาร์ และ 05.59-00.06 สำหรับวันอาทิตย์และวันหยุดต่างๆ 

Airport Shuttle Service
จะเป็นรถแม็กซีแค็บแบบ 9 ที่นั่ง วิ่งให้บริการระหว่างสนามบินไปยังโรงแรมเกือบทุกแห่งในเมือง (ยกเว้นโรงแรม Changi Village และโรงแรมบนเกาะเซ็นโตซ่า) ซึ่งคุณสามารถเลือกลงตรงปลายทางที่อยู่ภายในย่านธุรกิจ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้าได้ด้วย โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และออกทุก 15 นาทีในช่วงเวลา 06.00-24.00 น. หลังจากนั้นจะออกวิ่งทุกๆ 30 นาที

รถเมล์สาธารณะ (Public Buses)
วิธีนี้นับว่าเป็นวิธีที่ประหยัดที่สุดในการเดินทางเข้าเมือง แต่อาจจะใช้เวลานานสักนิด ซึ่งท่ารถจะตั้งอยู่ที่อาคาร 1 ชั้นใต้ดินชั้น 2 (Basement 2) และอาคาร 2 ชั้นใต้ดิน (Basement) โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.

สิ่งน่าสนใจใน สิงคโปร์ | Singapore Attractions

Universal studios Singapore

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ สวนสนุกแห่งใหม่ในเครือบริษัทยูนิเวอร์แซล พาร์ค แอนด์ รีสอร์ท ที่ได้เปิดสวนสนุกในรัฐฟลอริดาและแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ รวมถึงญี่ปุ่น ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ เป็นสวนสนุกในเครือยูนิเวอร์แซลแห่งแรกที่เปิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกำลังจะเปิดที่ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ มีเครื่องเล่นทั้งหมด 24 ชนิด โดยเป็นเครื่องเล่นที่ออกแบบใหม่จำนวน 18 ชนิด พื้นที่สวนสนุกประกอบด้วยธีมปาร์คที่รวมตัวละครและสถานที่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดังของบริษัทดรีมเวิร์คส์ แอนิเมชั่น คือมาดากัสการ์ (Madagascar) และเชร็ค (Shrek)

ธีมปาร์คในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ จะจำลองเกาะมาดากัสการ์ขึ้นมา ประกอบด้วย ทะเล เรือเดินสมุทร และป่าที่บรรดา 4 สหายคือ อเล็กซ์ มาร์ตี้ เมลแมนและกลอเรีย รวมถึงตัวละครเอกในเรื่องเข้าไปในผจญภัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ ธีมปาร์คส่วนนี้มีชื่อว่า "มาดากัสการ์ : ป่วนป่าแอฟริกา (Madagascar : A Crate Adventure)" เครื่องเล่นในธีมปาร์คมาดากัสการ์ประกอบด้วยการนั่งเรือผ่านฉากต่างๆที่เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์ ซึ่งเหมือนกับได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการผจญภัยในเรื่องมาดากัสการ์ด้วยเช่นกัน 

ธีมปาร์คที่อยู่ใกล้ๆกันคือ ปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ (FarFar Away Castle) ของฮีโร่ตัวเขียวเชร็ค และเจ้าหญิงฟีโอน่าในภาพยนตร์เรื่องเชร็ค ซึ่งเป็นปราสาทของกษัตริย์ฮาโรลด์และเป็นที่ประทับของเจ้าหญิงฟีโอน่า ตัวปราสาทมีความสูง 40 เมตร สิ่งที่น่าสนใจในธีมปาร์คแห่งนี้คือมัลติมีเดียเชร็ค 4D, การโชว์ร้องเพลงของดองกี้ และเครื่องเล่นมหาสนุกเมจิก โพชั่น และในโซนธีมปาร์คมาดากัสการ์และปราสาทฟาร์ ฟาร์ อเวย์ มีเครื่องเล่นอื่นๆอีก เช่น โรลเลอร์ โคสเตอร์ ที่มีชื่อว่าเอนเชนเท็ด แอร์เวย์, ม้าหมุนบีช ปาร์ตี้ และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับตัวละครในภาพยนตร์ของดรีมเวิร์คส์อีก 10 แห่ง นอกจากธีมปาร์ค 2 แห่งในยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ แล้วยังมีโซนที่น่าสนใจอีก 5 โซน เช่น เมืองไซไฟ, โซนอียิปต์, โซนนิวยอร์ก, โซนเดอะลอสต์เวิลด์ ที่จำลองฉากจากภาพยนตร์เรื่องจูราสสิคปาร์ค และโซนฮอลลีวู้ด บูเลอวาร์ด นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอสำหรับการแสดงสดที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำภาพยนตร์ด้วย

​บัตรเข้าชม ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ 

วัน ผู้ใหญ่ / เด็ก ราคา (บาท) Purchase Now
จันทร์-ศุกร์
(Mon-Fri)
ผู้ใหญ่ -
เด็ก -
เสาร์-อาทิตย์ และช่วงพีค
(Sat-Sun and Peak Date)
จองล่วงหน้า 14 วัน
ผู้ใหญ่ -
เด็ก -
 

เงื่อนไขของบัตร 
1. บัตรทุกประเภท เป็นราคาเงินบาทต่อ 1 ท่าน ชนิดซื้อแล้วไม่สามารถคืนเงินได้ (Non-Refundable) All Admission Tickets are Non Refundable.  
2. บัตรใช้ผ่านประตู และสามารถเล่นเครื่องเล่นภายใน Universal ในโซนต่างๆ ได้ ยกเว้น ปีนผาในโซนเดอะลอสเวิล์ด 
3. สำหรับวันเสาร์และวันอาทิตย์ต้องสั่งจองล่วงหน้า 14 วัน และต้องระบุวันที่ที่ต้องการ 
4. บัตรมีอายุ 6 เดือน กรุณาดูวันหมดอายุหลังบัตร

หมายเหตุ
ราคานี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมในการจัดส่ง หากท่านต้องการให้จัดส่ง บริษัทขอคิดค่าธรรมเนียมในการจัดส่ง ดังนี้
- จัดส่งทางไปรษณีย์ คิดค่าธรรมเนียมเพิ่มท่านละ 100 บาท(จัดส่งทั่วประเทศ)
- จัดส่งโดย Messenger คิิดค่าธรรมเนียมเพิ่มท่านละ 300 บาท (เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น)


Gardens by the Bay

ภาคต่อ...หากใครถามว่าตอนนี้ที่เที่ยวในสิงคโปร์ที่ไหนที่มาแล้วประทับใจสุดๆ ตอบได้ทันทีว่า Gardens by the Bay โดยเฉพาะมาตอนเย็นๆ เพื่อมารอเวลาพระอาทิตย์ตกดินและรอดูไฟจาก ซุปเปอร์ทรีส์ (Supertrees) เป็นภาพสวยเหมือนหลุดเข้าไปอีกมิติหนึ่ง ยิ่งได้มานอนดูโชว์ไฟด้วยแล้ว มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ขอแนะนำว่า ห้ามพลาดจ้า

ขอแนะนำว่า เมกะโปรเจ็คสร้างสวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่าเบย์ ตรงที่ว่างด้านหลังโรงแรม Marina Bay Sands นอกจากจะกลายมาเป็นสวนสาธารณะให้คนสิงคโปร์แล้ว ยังดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาดูความอลังการของโครงสร้างต้นไม้ขนาดใหญ่ สูง 25 – 50 เมตร เทียบได้กับตึกสูง 9-16 ชั้นทีเดียว แถมยังมีเจ้าซุปเปอร์ทรีส์นี้มากถึง 18 ต้นเรียงรายอยู่ในสวน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ โดยแต่ละต้นก็ถูกออกแบบให้เป็นสวนแนวตั้งขนาดใหญ่ มีไม้เลื้อยปกคลุมสวยงาม  และยามค่ำคืนจะโดนเด่นด้วยแสงไฟที่เปลี่ยนสีได้หลายสี ใครยังไม่เคยมา แนะนำให้มาดูให้ได้ ห้ามพลาด!!!

นอกจากเจ้าต้นไม้ยักษ์แล้ว ใน การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ ยังมีเรือนกระจกขนาดใหญ่อยู่สองแห่งด้วยกัน เป็นเรือนกระจกติดแอร์ เรียกว่า Cloud Forest และ Flower Dome ใน Cloud Forest จะมีน้ำตกจำลองขนาดใหญ่ พร้อมด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ในเขตป่าดิบชื้นมากมาย ในโดมจะออกแบบเป็นทางเดิน โดยเราจะเดินขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดแล้วเดินไล่ลงมาจนถึงชั้นล่างที่เป็นป่าหมอกสวยงามมาก ในส่วนของ Flower Dome จะเป็นที่จัดแสดงพรรณไม้จากเขตร้อนชื้นแถบเมดิเตอร์เรเนียน มีต้นไม้ดัดยักษ์และปาล์มขวดมากมายให้เราได้ถ่ายรูป รวมถึงมีสวนจิ๋วน่ารักๆ ให้เราดูอีกด้วย เหมาะแก่การไปนั่งอ่านหนังสือ นั่งเล่นชิลๆ เพราะในเรือนกระจกจะติดแอร์ให้อากาศเย็นสบาย และมีกลิ่นหอมๆ ของดอกไม้และต้นไม้ฟุ้งกระจายไปทั้งโดม หลังจากเที่ยวในเรือนกระจกทั้งสองเรือนเสร็จแล้วอย่าลืมตีตั๋วขึ้นไปเดินบนทางเดินลอยฟ้า (OCBC Skypwalk) ที่เชื่อมซุปเปอร์ทรีส์ยักษ์สองต้นเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะมารอชมไฟจากซุปเปอร์ทรีส์ตอนค่ำๆ

ข้อมูลสำหรับมาเที่ยว การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์
เวลาเปิดปิดของส่วนต่างๆ ทางเข้าประตูหน้า (Bay South Outdoor Gardens)
เปิดให้เข้าตั้งแต่เวลา 5:00 AM – 2:00 AM ทุกวัน

สวนเรือนกระจก (Cloud Forest & Flower Dome) & ทางเดินลอยฟ้า (OCBC Skyway)
เปิด 9:00 AM – 9:00 PM ทุกวัน
เคาว์นเตอร์ขายตั๋วจะให้บริการถึงแค่ 8:00 PM
ประตูทางเจ้าเรือนกระจกจะเปิดถึงแค่ 8:30 PM

รถบริการพาเที่ยวรอบสวน (Garden Cruiser)
จันทร์-ศุกร์
9:30 AM – 5:00 PM (รอบสุดท้าย)
***เฉพาะวันจันทร์แรกของเดือน , 
เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดประจำชาติจะเปิดให้บริการรถเที่ยวแรกตอนเที่ยงตรง ***
9:30 AM – 4:00 PM (รอบสุดท้าย)

ราคาตั๋ว
บริเวณสวนกลางแจ้งรวมถึงรอบๆ บริเวณซุปเปอร์ทรีไม่ต้องเสียค่าเข้า
ตั๋วเข้าชมสวนในเรือนกระจกทั้งสองแห่งและค่าขึ้นทางเดินลอยฟ้าสามารถซื้อได้พร้อมกันที่จุดขายตั๋วหน้าเรือกระจก ราคาปกติสำหรับนักท่องเที่ยวมีดังนี้

รือนกระจก 2 แห่ง ทางเดินลอยฟ้าตรงซุปเปอร์ทรี นั่งรถชมรอบบริเวณ
  (Two Conservatories) (OCBC Skyway) (Garden Cruiser)
ผู้ใหญ่
$28
$5
$5
ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป)
$28
$5
$5
เด็ก (3 -12 ขวบ) S$15 S$3 S$3

Tiger Sky Tower หอชมวิวที่สูงที่สุดในสิงคโปร์
Sky Tower เป็นหอคอยชมวิวบนเกาะเซนโตซ่า ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้า Images of Singaporeท่านสามารถชมทัศนียภาพรอบเกาะสิงคโปร์และเซ็นโตซ่า ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ท่านสามารถมองได้ไกลถึงประเทศเพื่อนบ้านคือ มาเลเซียและเกาะอินโดนีเซีย หอชมวิวแห่งนี้เป็น 1 ใน 13 หอชมวิวของโลก ด้วยความสูงของหอคอยที่มีขนาดความสูงถึง 110 เมตร ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมความสวยงามของเกาะโซนโตซ่า และ บรรยากาศท้องทะเล ได้อย่างสวยงาม สามารถจุผู้โดยสารได้ครั้งละ 72 คน โดยห้องโดยสารขนาดใหญ่และเป็นกระจกใสโดยรอบ จะค่อยๆ เคลื่อนตัวขึ้นไปจนถึงจุดที่สูงที่สุดและหมุนไปรอบๆ จนครบ 360 องศา หลังจากนั้นจะค่อยๆ เคลื่อนตัวลงมา แต่ก่อนหอคอยแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยบริษัทเครื่องดื่มชื่อว่า Carlsberg เลยมีชื่อว่า Carlsberg Sky Tower แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนผู้สนับสนุนเป็น บริษัทเครื่องดื่มเจ้าใหม่ชื่อว่า Tiger จึงทำให้ต้องเปลี่ยนชื่อเรียกหอคอยแห่งเป็น Tiger Sky Tower แทนชื่อเดิม 

ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ – 12.00 เหรียญสิงคโปร์
เด็ก – 8.00 เหรียญสิงคโปร์ (อายุ 3-12 ปี)

เวลาทำการ
9.00 น. – 21.00 น. ทุกวัน
(รอบสุดท้าย 20.45 น.)


Singapore Flyer ชมวิวสิงคโปร์แบบ 360 องศา

Singapore Flyer ชิงช้าสวรรค์ (Observation Wheels) ตั้งอยู่บริเวณริมปากอ่าวมาริน่า ด้วยความสูงเทียบเท่ากับอาคาร 42 ชั้น หรือ ประมาณ 165 เมตร ทำให้ชิงช้าสวรรค์ หรือ Singapore Flyer กลายเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงมากที่สุดในโลก หนึ่งในเหตุผลที่ทางผู้สร้าง Singapore Flyer บอกกับนักท่องเที่ยวว่าทำไมนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสิงคโปร์ควรจะต้องหาโอกาสนั่งชิงช้าสวรรค์นี้ให้ได้ซักครั้งนึง คือ นอกเหนือจากการที่จะได้เห็นวิวของสิงคโปร์จากมุมสูงได้อย่างสวยงามแล้ว ก็เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตเพราะว่า Singapore Flyer ประกอบไปด้วยแคปซูนทั้งหมดจำนวน 28 แคปซูน และ ในแต่ละแคปซูนบรรจุนักท่องเที่ยวได้ 28 คน ซึ่งเลข 28 เป็นเลขทางฮวงจุ้ย อย่างที่หลายๆ คนทราบกันว่า คนจีนมองว่าเลข 8 คือเลขแห่งความเจริญรุ่ง ส่วนเลข 28 ก็หมายถึงเป็นการ Double ความเจริญรุ่งเรือง หรือ Double Prosperity ดังนั้นถ้าใครได้มีโอกาสขึ้น Singapore Flyer ก็จะทำให้มีความเจิรญรุ่งเรืองในชีวิตเป็นสองเท่า นั่ง Singapore Flyer รอบนึงใช้เวลาประมาณ 30 นาที เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 - 22.30 น.

สำหรับค่าขึ้น Singapore Flyer
ปัจจุบัน (ตค 2555)
ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ขึ้นไป) 33 SGD
เด็ก (อายุ 3-12) 21 SGD
ผู้สูงอายุ (อายุ 60 ขึ้นไป 24 SGD
** ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาเช็คราคาล่าสุดก่อนการสำรองบัตรเข้าชม

Sentosa Luge & Skyride
LUGE (ลูจ) คือรถคันเล็กๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก การเล่น LUGE เราทำเพียงแค่บังคับทิศทางและความเร็วที่ Hand ของรถ โดยหัก Hand ไปตามทางเลี้ยวไปเลี้ยวมา และ เบรค หรือ ชลอความเร็วได้ด้วยการกด Hand ของรถลง แต่ไม่ต้องกังวลสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน เค้าจะสอนเราขับก่อนปล่อยลงสนามจริง ความสนุกสุดๆ ของการเล่น LUGE อยู่ที่เราสามารถปล่อยให้รถวิ่งได้เร็วๆ ไปตามทางที่ลาดชันและโค้งไปมาได้อย่างปลอดภัย เพราะความเตี้ยของรถและทางโค้งเทๆ ที่เค้า ออกแบบมาอย่างดี ทำให้เราสามารถอัดความเร็วของรถได้แบบสะใจ ถึงบอกว่าสะใจ แต่ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นวัยรุ่นนักซิ่งที่รักความเร็วเท่านั้นนะ LUGE สามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น วัยรุ่น, เด็ก, หรือ แม้แต่คนแก่ก็สามารถเล่น LUGE ได้อย่างสนุกสนาน วิธีการที่จะไปเล่น LUGE เราก็ต้องไปซื้อบัตรสำหรับเล่น LUGE ที่จุดขายตั๋วซะก่อน (ราคาและ promotion สามารถดูได้ด้านล่าง) แล้วก็เดินไปต่อคิวขึ้น Skyride ที่ต้องขึ้น Skyride เพราะว่า LUGE เป็นรถที่ใช้แรงโน้มถ่วงเป็นตัวขับเคลื่อน ดังนั้นเราต้องไปที่จุด Start บนยอดเขาด้วย Skyride ซึ่งนอกจาก Skyride จะบรรทุกคนขึ้นไปแล้ว ยังบรรทุกรถ LUGE กลับขึ้นไปที่จุด Start ด้วย (เป็นการออกแบบที่ฉลาดดีค่ะ) Skyride จะค่อยๆ เลื่อนไปช้าๆ ใช้เวลาประมาณนึงพอให้เราละเลียดกับความสูง (และความหวาดเสียว) ไปพร้อมๆ กับสูดอากาศบริสุทธิ์ โดย Skyride จะวิ่งผ่านถนนที่เดี๋ยวเราจะต้องซิ่งรถ LUGE ลงมาด้วย วิวของเกาะเซ็นโตซ่าบน Skyride สวยงามมากเลยค่ะ มองเห็นทะเล มองเห็นท้องฟ้ากว้างใหญ่ มาถึงแล้วเราก็เดินมาต่อคิวรอขึ้นรถ LUGE โดยแต่ละรอบเค้าจะปล่อยรถประมาณ 4-6 คัน และก่อนที่จะปล่อยให้เราซิ่งรถอย่างอิสระ เค้าจะสอนวิธีใช้รถ และ ให้ลองขับรถผ่านสิ่งกีดขวางก่อนเล็กน้อยเพื่อให้เราชินกับรถ LUGEหลังจากเรียนรู้วิธีขับ LUGE แล้วก็ได้เวลาซิ่งรถแล้วค่ะ เราสามารถอัดความเร็วเพื่อให้ได้ความสะใจแล้วเบรคนิดหน่อยตอนเข้าโค้งได้แบบชิวๆ สำหรับคนที่ไม่อยากซิ่งก็สามารถ ค่อยๆ ขับลงมาได้ ก็ได้รับความสนุกของเส้นทางของ LUGE เหมือนกันค่ะที่ข้างๆ จุดขายตั๋ว LUGE ก็จะมีโต๊ะให้เรานั่งพัก หรืออาจจะให้คนที่ไม่ได้เล่นมานั่งรอนั่งพักแถวนี้ก็ได้ หากเราเล่นเสร็จแล้วถ้าหิวน้ำ เราก็สามารถมาซื้อน้ำดื่มได้จากเต้นท์ขายน้ำหน้าจุดขายตั๋วค่ะ สรุปว่าสนุกดีค่ะ ถ้ามาที่เซ็นโตซ่า ก็อยากให้เพื่อนๆ มาลองเล่นดูนะคะ ^^

ข้อมูลสถานที่ 
ที่ตั้ง : เดินจากสถานี Beach station มาหน่อย
แผนที่ : ดูแผนที่เกาะเซ็นโตซ่า

เปิดบริการ : ทุกวัน 9:00-21:30 น.
ค่าเข้าชม
1. Luge & Skyride – 10.00 เหรียญสิงคโปร์ต่อคน
2. Luge & Skyride – 18.00 เหรียญสิงคโปร์ต่อคน
ราคาครอบครัว (ตั๋วรวม)
4 เครื่อง – 27.00 เหรียญสิงคโปร์
8 เครื่อง – 49.00 เหรียญสิงคโปร์
สกายไรด์
ตั๋วเที่ยวเดียว 6.00 เหรียญสิงคโปร์
ตั๋วไป – กลับ 10.00 เหรียญสิงคโปร์
เวลาทำการ
10.00 น. – 21.30 น. ทุกวัน


Bumboat
เมืองไทยมีเรือหางยาว สิงคโปร์ก็มีเรือ Bumboat เอาไว้ให้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสทัศนียภาพสองฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์ เจ้า Bumboat คือเรือท้องแบน ที่แต่เดินเอาไว้ขนถ่ายสินค้าจากสำเภาใหญ่นอกปากอ่าวเข้ามาในตัวเมืองชั้นใน ทุกวันนี้ถูกดัดแปลงกลายเป็นเรือท้องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์อย่่างหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ แถมได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสชีวิตของเมืองริมน้ำทยอยมาใช้บริการไม่ได้หยุดหย่อน

นักท่องเที่ยวจะใช้บริการเจ้า Bumboat ได้ที่ไหนบ้าง
จุดขายตั๋วจะอยู่ประจำที่ท่าเทียบเรือแต่ละแห่ง โดยมีทั้งหม&a

ทัวร์แนะนำ ที่คุณอาจจะสนใจ