10 เทคนิค "เที่ยวเกาหลีใต้" ให้ฟินสุดๆ
9 เทคนิค "เที่ยวเกาหลีใต้" ให้ฟินสุดๆ
การเตรียมตัวไปท่องเที่ยวเกาหลี อย่างไร ให้สนุกและปลอดภัย ที่สำคัญ คือ ทำอย่างไรถึงจะผ่าน ด่านตรวจคนเข้าเมือง ของเค้าได้อย่างชิลล์ๆ กิกิ
ผมเองก็ได้มีประสบการณ์มาแนะนำนะครับ ตอนนั้นพาทัวร์ไป แต่ไม่เคยโดนกักตัวเลย แถมลูกค้าที่ไปก็ไม่มีใครสักคน ที่เคยถูกส่งกลับประเทศ ห้ามเข้าเกาหลีอ่ะนะครับ แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา ลูกค้าท่านหนึ่ง ซื้อตั๋วเครื่องบินเสร็จสรรพ กะจะไปชอปปิ้งกับ เพื่อนๆ ที่อิเตวอน แต่ขอโทษๆ เธอถูกเจ้าหน้าที่ ตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลี ปฎิเสธการเข้าเมืองครับ แง๋วเลย!!!!...ต้องนั่งเครื่องกลับมาเมืองไทย อดเที่ยว พร้อมกับอารมณ์ฉุนเฉียว เกลียดพี่กิมจิไปอีกนานเลยละ
ผมเลยขอเป็นไกด์นำเที่ยวเกาหลี มาบอกเคล็ดลับดีๆ ให้ทุกคนได้ศึกษาก่อน จะไปเที่ยวเกาหลีกันนะครับทุกท่าน เตรียมตัวกันไว้ก่อน จะได้ไม่มีปัญหา สามารถไปเฮฮาได้แบบสบายใจ ไม่ต้องอารมณ์เสียไหนๆ ก็จะเสียเงินไปชมบ้านเมืองเค้าแล้ว เรามาดูกฎต้องห้าม สิ่งควรรู้เกี่ยวกับประเทศเค้าซะหน่อยเป็นไรแล้วกันนะครับ จะได้หายห่วง
ทำอย่างไรดีที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง
1. วันเดินทาง ควรแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อย นิดหนึ่งครับ ผมทราบนะครับ ว่าการนั่งเครื่องบิน 5 ชม. เนี้ยมันก็น่าเบื่อพอประมาณ จะให้แต่งองค์ทรงเครื่องมากนัก มันก็ออกจะอึดอัด แต่ก็ต้องทนรู้ไหมรับ เพราะ ตม.เกาหลีอ่ะ เขาพิจารณาการแต่งกายเป็นอันดับแรกเลย ถ้าแต่งล่อแหลม วอบแวมๆ แบบเทรนญี่ปุ่น แบบลูกค้าผมท่านหนึ่งนะ เค้าจะหมายหัว ว่าไปค้าประเวณีได้ ฉะนั้น อดทนไว้ๆ ชุดเซ็กส์ๆ เปรี๊ยวปี๊ดเซ็กส์เอ็กซ์แตกนั้น เก็บเอาไว้ในกระเป๋า ให้มิดชิด พอผ่านออกจากด่าน ตม. ได้แล้วจะคว้ามาใส่ก็ไม่ว่ากันนะครับ(เต็มที่สุดๆไปเลย)
2. หัดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษให้ ฉะฉาน อย่ารอให้มันถาม เพราะถ้ารอให้เขาถามเราจะประหม่า และอาจตอบไม่ถูก ผมแนะนำว่า พอถึงคิวเราปุ๊ป ไปยืนหน้าเคาเตอร์ ตม. ให้ Good morning พยายามออกเสียงให้ชั้นเทพเข้าไว้ อิอิ อย่าไปบอกเขาว่า กูด-มอ-นิ่ง เด็ดขาด เฉยมากๆ ทำเสียงเทพใส่เจ้าหน้าที่ไปเลย "มอร์-นิ่ง" หรือ "ดาฟ ทะนูน" หรือ "ดีฟวะนิ่ง" แล้วมองตาเขาด้วยนะ อย่าไปหลบตาเขา (ภาษาอังกฤษเขาก็ไม่ได้ดี ไปกว่าเราหรอก นึกแบบนั้นเข้าไว้ 5555 พอเราทำเทพ ใส่เขาเองแหละจะลนลาน อิอิ) เวลาเขาถามอะไร แล้วเราฟังไม่รู้เรื่อง ให้เก็กเสียงสูงๆ ทำท่าหงุดหงิด ประมาณว่า คุณถามภาษาอะไรเนี้ย ฉันฟังไม่ออกเลย ถามมาไม่รู้เรื่องปั๊ป ดัดกลับไปเลย "pardon" เขาจะเริ่มขาดความมั่นใจอิอิ อย่าลืมทำเสียงสูงๆ เทพๆ เข้าไว้ด้วยนะครับทุกคน
ยื่นพาสปอต์ไปแล้วก็ บอกเขาไปเลยว่าเราเป็นใครและมาทำไม ที่นี้ เช่น I work as a teacher at the university in Bangkok and I'm here for vacation, here's letter from my employer.ใส่ป็นชุดไปเลย เอาให้มึนไปข้างอิอิ จากประสบการณ์ของผม สันนิษฐานได้ว่า ตม.เกาหลี ภาษาอังกฤษไม่แตกฉานเท่าไร พอเราใส่ไปมากๆ เขาจะมึน และให้เราผ่านไปเอง จริงๆ แล้วมันมีเทคนิคตัดสินคนง่ายๆ อ่ะนะ ว่าถ้าใครพูดภาษาอังกฤษได้ดี คนนั้นมีการศึกษาดี สามารถหางานดีๆ ทำได้ ไม่ต้องหนีเข้ามาค้าประเวณี หรือขายแรงงานในประเทศเขาแน่ๆ อันนี้เพื่อนที่อยู่เกาหลี เค้าบอกมาอีกทีนะครับ
3. เตรียมเอกสารต่างๆให้เรียบร้อย เช่น ใบลางาน ใบรับรองเงินเดือน นามบัตรของเรา(ภาษาอังกฤษนะครับ พิมพ์เองเลย จะเอาวิริสมาหลาขนาดไหนก็ว่าไป เอาไปโชว์ๆ เผื่อเค้าไม่มั่นใจว่า น้ำหน้าอย่างเธอเนี้ยนะ จะมีเงินมาเที่ยวประเทศฉันเหรอ ) ถ้าเป็นนักเรียนก็ บัตรนักศึกษา ใบรับรองการศึกษา ( ไปขออาจารย์มากั้นเหนียวๆ พกไปไม่เสียหาย แต่ไม่มีแล้วเค้าขอ นี่จะยุ่ง อดเที่ยวนะน้องๆ) ตั๋วเครื่องบินวันกลับ วอชเชอร์จองโรงแรม หรือจดหมายชวนจากเพื่อน จดหมายเชิญมาประชุม หรือดูงาน ที่สำคัญกันเหนียวเอาบัตรเครดิตไปด้วย มันมีปัญหาอะไร ควักบัตรทอง วางโชว์เลย (บัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่ต้องเอาไปนะครับ อันนั้นมันใช้ไม่ได้อ่า) บอกไปว่า ในนี้มีเงินอยู่ พันล้าน แล้วเขาจะรีบให้พี่เข้าไปเลยก อะไรพวกเนี้ยอะครับ
เตรียมให้ครบ 3 อย่างที่ผมบอกก็เป็นอันว่า เข้าไปซ่าในแดนกิมจิ กันได้แล้วล่ะ รับประกันไม่มีการถูกปฎิเสธ การเข้าเมืองเด็ดขาดเชื่อดิ
สิ่งที่ควรรู้ในการไปเที่ยวประเทศเกาหลี
1. เค้าใช้สกุลเงิน "วอน" โดย 1000 วอน จะประมาณ 30 บาทไทย
2. ควรแลกตังค์ที่เมืองไทยไปเลย เรทจะดีกว่าไปแลกที่สนามบิน หรือแลกในเกาหลี ใช้บริการบ่อยๆ ก็สยามเอ็กเชน ตรงข้ามสยามดิฟคัฟเวอร์รี่
3. เช็คอากาศ และเสื้อผ้าให้เหมาะกับฤดูกาลด้วยนะครับ ประเทศเกาหลีมี 4 ฤดู และอากาศแตกต่างกันดังนี้
ฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมอุณหภูมิระหว่าง 10-25 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน ระหว่างเดือนมิถุนายน-สิงหาคมอุณหภูมิระหว่าง25-35 องศาเซลเซียส
ฤดูใบไม้ร่วง ระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายนอุณหภูมิระหว่าง 5-15 องศาเซลเซียส
ฤดูหนาว ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิระหว่าง (-10) -10 องศาเซลเซียส
4. ระบบไฟฟ้าในเกาหลีส่วนใหญ่ใช้ไฟ 110 โวลต์ (แต่ในโรงแรมใหญ่ๆ บางทีมี 220 โวลต์ แบบเมืองไทยก็มีค่า) เป็นปลั๊กรูกลม หรือปลั๊ก 3 ขา เครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องเอาอแดปเตอร์ไปด้วยครับ
5. โทรศัพท์มือถือจาก ประเทศไทย ไม่สามารถใช้งานได้ในเกาหลี เพราะว่าเกาหลีใช้โทรศัพท์ระบบ CDMA ของประเทศไทย ใช้ระบบ GSM ฉะนั้นถ้าอยากเอาโทรศัพท์ ไปใช้ในเกาหลี ต้องไปขอเปลี่ยนระบบโทรศัพท์ กับเจ้าของเครือข่าย ที่เราใช้ก่อนที่จะบินไปแดนโสมนะครับ
6. เวลาที่เกาหลีเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชม.นะครับ อย่าลืมปรับนาฬิกาเมื่อถึง สนามบินอินชอนนะครับ
7. การให้ทริปของคนเกาหลี ถือว่าสำคัญมาก ทุกบริการเราจำเป็นจะต้องให้ทริปเค้านะครับ ไม่งั้นจะโดนเค้ามอง ด้วยสายตาดูถูก เหยียดหยาม ว่าไม่รู้จักธรรมเนียมสากลเอาซะเลย คิดเป็น 5% ของราคาทั้งหมดที่เราใช้บริการเค้าครับ
8. การซื้อของตามร้านค้าทั่วๆ ไป เราสามารถต่อรอง ราคาลงมาได้ประมาณ 10 - 30% ครับ ควรเอา เครื่องคิดเลขเล็กๆ พกพาไปด้วย เพราะคนเกาหลี รุ่นแก่ๆ ส่วนใหญ่ จะพูดภาษาอังกฤษ ไม่ได้ เราก็จิ้มๆ ตัวเลขที่ต้องการจะซื้อของ ในเครื่องคิดเลข ให้เขาไปครับ ถ้าเขาสามารถขายได้ เขาจะเอาของใส่ถุงมาให้เราเอง
9. บริการแท็กซี่ จะมี 2 แบบ คือ แบบแรก แท็กซี่ป้ายสีฟ้า กะ แท็กซี่ป้ายสีขาว สตาร์ท มิตเตอร์ที่ 1600 วอนใน 2 กม. ช่วงเที่ยงคืน ถึงตี 4 ราคาจะแพงขึ้น 20% คนขับในแบบแรกนี้ จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้นะครับ แบบที่สอง แท็กซี่เดอลุกซ์ หรือ แท็กซี่ป้ายเหลือง สตาร์ทมิตเตอร์ที่ 4000 วอน ใน 3 กม.แรก ไม่เรียกเก็บเพิ่มในเวลากลางคืน คนขับพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคันครับ
10. รถไฟใต้ดินในเกาหลี ราคา 700 วอน ตลอดสาย
จบแล้วครับ.. มีแค่นี้ครับ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านได้ไปเที่ยวเมืองโสม กันทุกคน แล้วอย่าลืมเอาหนุ่มหล่อๆ สาวสวยๆกลับมาฝาก กันบ้างนะครับ วันนี้ลากันไปก่อน มีอะไรดีๆ แล้วจะกลับมาบอกกันอีกครับ ขอบคุณมากๆ ครับและสวัสดีนะครับ