อยากทราบช่องทางการเช็คอินว่ามีแบบไหนบ้างคะ
อยากทราบช่องทางการเช็คอินว่ามีแบบไหนบ้างคะ
ปัจจุบันสายการบินได้เพิ่มช่องทางการเช็คอินขึ้นมาหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายแก่การเดินทางมากขึ้นและลดปริมาณการเข้าคิวรอการเช็คอินที่หน้าเคาร์เตอร์ ทำให้ง่ายและลดขั้นตอนลง เรามาดูกันค่ะว่ามีช่องทางไหนที่ลูกค้าจะใช้เป็นตัวเลือกได้บ้าง
1. เช็คอินทางเว็บไซต์
ยุคนี้เป็นยุคโซเชียล จะทำอะไรที่ไหนก็ต้องรวดเร็วทันใจ สมาร์ทโฟน อินเตอร์เน็ต ไวไฟ สะดวกกว่าการไปต่อแถวเข้าคิว โดยเช็กอินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของสายการบินที่ลูกค้าจะไป ส่วนช่วงเวลาในการเช็กอินนั้น อาจจะภายใน 24 ชั่วโมง หรือ 2 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละสายการบิน ต้องลองเช็คเวลาดูดีๆค่ะ
เมื่อยืนยันรายละเอียดการเช็กอิน เลือกที่นั่ง สั่งของว่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถพิมพ์บัตรโดยสาร หรือบอร์ดดิ้งพาสออกมาได้เลย พิมพ์เสร็จแล้วสามารถพกติดตัวไปเช็คอินได้เลยค่ะ
2. ตู้เช็คอินแบบบริการตนเอง
ในสายการบินใหญ่ๆ ตามประเทศต่างๆ เช่น ประเทศในแถบยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ฯลฯ จะมีตู้เช็คอินแบบบริการตนเอง โดยสามารถใช้บริการได้ประมาณ 24 ชั่วโมง ไปจนถึง 90 นาทีก่อนเครื่องออก ซึ่งเจ้าตู้เช็กอินนี้ จะสแกนหนังสือเดินทาง ให้เรายืนยันจุดหมายปลายทางและเลือกที่นั่งเสร็จสิ้น เครื่องก็จะแสดงรายละเอียดเที่ยวบินแล้วพิมพ์บัตรขึ้นเครื่องออกมา ถ้าเรามีกระเป๋าก็ไปโหลดกระเป๋าได้เลย ซึ่งสะดวกสบายมากค่ะ
ไม่เพียงแต่ต่าง ประเทศนะคะ ตอนนี้ที่สนามบินทั้งดอนเมือง และสุวรรณภูมิ ก็มีตู้เช็คอินจากหลายสายการบินแล้วเหมือนกัน ดังรายชื่อต่อไปนี้ค่ะ :
สายการบินไทย (Thai Airways)
สายการบินแอร์เอเชีย (AirAsia)
สายการบินแอโรฟอร์ต (Aeroflot)
สายการบินแอร์ฟรานซ์ (Air France)
สายการบินเคแอลเอ็ม (KLM)
สายการบินออสเตรียน (Austrian)
สายการบินบริติช แอร์เวย์ส (British Airways)
สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิก (Cathay Pacific)
สายการบินเคนย่า แอร์เวย์ส (Kenya Airways)
สายการบินลุฟธันซ่า (Lufthansa)
สายการบินอียิปต์ แอร์ (Egypt Air)
สายการบินอีวีเอ แอร์ (Eva Air)
สายการบินเดลต้าแอร์ไลน์ส (Delta Air Lines)
สายการบินทรานเซโร แอร์ไลน์ส (Transaero Airlines)
สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ส (Turkish Airlines)
3. การเช็คอินผ่านมือถือ
เพียงคุณมีโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ต ก็สามารถเช็คอินผ่านมือถือได้แล้ว เตรียมข้อมูลของคุณให้พร้อม แล้วเข้าไปยังเว็บไซต์ของสายการบิน ใส่รายละเอียดแล้วกดปุ่มเช็คอิน รอรับข้อความส่งเข้ามือถือ ซึ่งสามารถนำไปยื่นกับเจ้าหน้าที่ ใช้แทนบัตรขึ้นเครื่องได้เลย
ซึ่งวิธีนี้จะได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสะดวกและรวดเร็วมาก และแต่ละสายการบินก็เปิดให้ใช้บริการเช็คอินผ่านแอพพลิเคชั่นค่ะ
4. การเช็คอินที่รีสอร์ทหรือสถานที่อื่น
ในเมืองไทยได้เปิดบริการเช็คอินที่แอร์พอร์ตลิงค์ มักกะสัน ซึ่งบริการเช็คอินล่วงหน้าที่จุดนี้สามารถทำได้ก่อนตั้งแต่ 3-12 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และอีกจุดเป็นของสายการบินนกแอร์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลติดกับสนามบินเชียงใหม่ โดยจะออกบอร์ดดิ้งพาสให้ก่อนเครื่องออกประมาณ 1 ชั่วโมง
ส่วนในต่าง ประเทศ สามารถเช็คอินจากสถานที่อื่น เช่น จากสถานีรถไฟที่สนามบินในฮ่องกง และในนยุโรปพนักงานรับโทรศัพท์ที่รีสอร์ทสามารถช่วยเช็คอินได้จากโรงแรม ทั้งนี้ก็ต้องตรวจเช็คให้ดีๆ จะได้ไม่พลาดการเดินทาง
5. เคาน์เตอร์เช็คอิน
วิธีสุดท้าย หากวิธีอื่นๆ ไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีนี้แหละ ไปที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ซึ่งถึงแม้จะไม่ใช่วิธีทันสมัยแบบวิธีอื่นๆ แต่ก็ยังเป็นวิธียอดนิยม และมั่นใจว่าเช็คอินถูกต้องเรียบร้อยแน่นอน ซึ่งควรจะไปเช็คอินก่อนเครื่องออก 2 ชั่วโมง หรือบางประเทศก็ต้อง 3 ชั่วโมงเลย จะได้เผื่อเวลาสำหรับจุดตรวจค้น และมีเวลาเดินเล่นไนดิวตี้ฟรี
ลูกค้าท่านไหนที่คิดว่าตัวเองเหมาะสมกับการเช็คอินแบบใดก็สามารถดำเนินการเช็คอินในแบบนั้นๆได้ตามความสะดวกค่ะ แต่หากอยากลองเปลี่ยนวิธีการเช็คอินแบบใหม่ๆลองศึกษาและเปลี่ยนการเช็คอินดูค่ะ ว่ามันไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ