ข้อมูลเที่ยวยุโรป : 5 ไอคอนโดดเด่นของยุโรป
5 ไอคอนโดดเด่นของยุโรป
@ หอไอเฟล (Eiffel Tower)
บางคนบอกว่า หอไอเฟลไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของมหานครปารีสเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ขแงฝรั่งเศสด้วย สำหรับนักเดินทางที่ไปเยือนฝรั่งเศส หากไม่ได้ไปโพสท่าหน้าหอไอเฟลจึงเท่ากับไปไม่ถึงเมืองน้ำหอม หอไอเฟลถูกตั้งชื่อตามสถาปนิกผู้ออกแบบคือ "กุสตาฟ ไอเฟล" ด้วยส่วนสูงประมาน 1 พันฟุต ทำให้เมื่อคราวสร้างเสร็จช่วงปี 1889 หอไอเฟลจัดว่าเป็นส่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในโลก ใครอยากจะขึ้นไปชมวิวสมัยก่อนก็ต้องไต่บันไดขึ้นไปเกือบ 1,700 ขั้น แต่ใครไม่อยากเดินก็มีลิฟท์พาเหาะขึ้นไปแล้ว เมื่อคราวสร้างเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมนั้น ไอเฟลไม่ได้เชิ่ดหน้าอย่างทุกวันนี้ เพราะถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลยอย่างหนัก ว่าโครงเหล็กหน้าตาประหลาดนี้เกิดมาเพื่อทำลายความงดงามของกรุงปารีส แต่เดี๋ยวนี้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวแห่แหนกันขึ้นไปบนหอไอเฟลปีละหลายล้านคน บางคนขึ้นไปชมวิวกรุงปารีส บางคนควงหวานใจขึ้นไปดินเนอร์ข้างบน เพราะเขามีร้านอาหารที่นั่งกินไปจิบวิวไปได้ มุมที่ดีที่สุดที่ถ่ายภาพหอไอเฟล คือบริเวณจัตุรัสทรอคาเดโร แต่ไม่มีช่วงไหนของไอเฟลที่น่าดูเท่ากับช่วงกลางคืนอีกแล้ว เพราะไอเฟลจะถูกอาบไว้ด้วยแสงนีออนระยิบระยับสวยงาม ยิ่งถ้าคุณได้ลองแม่น้ำแซน ค่อยๆ มองหอไอเฟล ยิ่งสัมผัสถึงความโรแมนติกของกรุงปารัส
@ บิ๊กเบน (BigBen)
ไม่มีใครไปเยือนมหานครลอนดอนโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปสบตากับหอนาฬิกาบิ๊กเบนเพราะนี่คือหนึ่งในสัญลักษณ์ของลอนดอน จะว่าไป ก็เกือบจะ 156 ปีแล้วที่หอนาฬิกาบิ๊กเบนตั้งตระหง่านและส่งเสียงดังเหง่งหง่างจนลอนดอนไม่เคยเหงา บิ๊กเบนนั้นเป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ที่ปัจจุบันคือรัฐสภาของอังกฤษตามประวัติหอนาฬิกานี้ถูกสร้างกลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์นั้นเปํนสถานที่ประกอบราชพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์อังกฤษมานานกว่า 900 ปี รวมทั้งเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์และราชวงศ์หลายพระองค์ นักท่องเที่ยวทำได้แค่แหงนคอมองบิ๊กเบนเพราะทุกวันนี้ภายในหอนาฬิกาไม่เปิดให้เข้าชม แต่นาฬิกาเรือนนี้ของลอนดอน ไม่ได้เป็นสัญลักษณ์อย่างเดียว แต่ขึ้นชื่อเรื่องความเที่ยงทรงด้วย ทำให้หอดูดาวที่เมืองกรีนิช ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมเวลามาตรฐานโลก ใช้บิ๊กเบนเป็นเครื่องบอกเวลามาตรฐานผ่านทางสถานีวิทยุบีบีซี ถ่ายทอดเสียงการตีบอกเวลาของนาฬิกาเรือนนี้ไปทั่วโลก
@ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (Saint Peter's Basilica)
นครวาติกันไม่ได้เป็นปลายทางของคริสต์ศาสนิกชนเท่านั้น แต่ยังเป็ยหมุดหมายของนัดเดินทางจากทั่วมุมโลก เพราะทุกคนต่างอยากเห็นมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์อันโอ่อ่าสง่างาม มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ถือได้ว่าเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดในนครรัฐวาติกัน นี่คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดที่หนึ่งของศริสตชนนิกายโรมันคาทอลิก ที่เชื่อกันว่าร่างของนักบุญปีเตอร์ถูกฝังไว้ที่นี่ จึงเป็นประเพณี กันต่อมาว่าพระสันตะปาปาหลายองค์ก็ฝังไว้ที่นี่เช่นกัน ตัวมหาวิหารปัจจุบันเริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1506 และเสร็จสิ้นเมื่อปี ค.ศ. 1626 เดิมทีมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ไม่ได้เป็นที่พำนักของพระสันตะปาปาเหมือนในปัจจุบัน แต่ทุกวันนี้ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของวาติกันที่คนทั้งโลกนึกถึง
@ คอลอสเซียม (Colosseum)
คอลอสเซียมคือสิ่งก่อสร้างรูปทรงโค้งเป็นวงกลม ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมแก่งอิตาลีที่สะท้อนให้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรโรมันได้อย่างแจ่มชัด จนกระทั่งเมื่ออาณาจักรโรมันเสื่อมลงคอลอสเซียมก็ถุกข้าศึกทำลายหลายครั้ง จนในปัจจุบันเหลือแต่ซากโครงสร้างอีนใหญ่เอาไว้ในคนรุ่นนี้ได้ชมกัน
@ ประตูบรันเดนบว์ก (Brandenburg)
ไม่มีใครมาเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี แล้วจากไปโดยไม่ยินโพสท่าหน้าประตูบรันเดนบวร์ก เพราะนี่คือสัญลักษณ์ที่เข้มแข็งของเยอรมนีตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ที่สำคัญประตูนี้ช่างมากมายไปด้วยประวัติศาสตร์หน้าต่างๆ ของเยอะมนีและของโลก ประตูบรันเดนบวร์กสร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 18 สำหรับนักท่องเที่ยวมักใช้ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นออกเดินเท้าท่องเที่ยวกรุงเบอร์ลิน ไม่ว่าคุณจะไปอาคารรัฐสภา หรือถนนอุนเทอร์เดนลินเดน มหาวิหารแห่งเบอร์ลิน พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงกำแพงเบอร์ลินที่ชุ่มโชกไปด้วยประวัติศาสตร์ ก็มักมาออกตัวกันจากประตูบันเดนบวร์กด้วยทั้งนั้น