ข้อมูลเที่ยวไอซ์แลนด์ : น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)
ข้อมูลเที่ยวไอซ์แลนด์ : น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss)
น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss) เป็นน้ำตกมีชื่อแห่งหนึ่งในจำนวนสถานที่ท่องเที่ยว ๆ หลายแห่งของประเทศนี้ และยังจัดว่าเป็นหนึ่งใน 3 ที่ไอซ์แลนด์จัดให้อยู่ใน “วงกลมทองคำ” ที่เมื่อผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ต้องมาท่องเที่ยว
ชื่อน้ำตกแห่ง Gullfoss มาจากคำว่า Gull ในภาษาไอซ์แลนด์ที่แปลว่าทอง และ Foss ที่แปลว่า น้ำตก เมื่อรวมกันก็คงเป็นน้ำตกทองคำ ส่วนจะหมายถึงว่ามีทองคำ ที่น้ำตก หรือว่าน้ำตกมาเป็นทองคำ หรือว่าความงามลองละอองน้ำเมื่อปะทะกับแสงแดดแล้วสะท้อนแวววาว ปรากฏเป็นรุ้งกินน้ำให้พบเห็นแก่ผู้มาท่องเที่ยวแล้วจะเรียกว่าเป็นทองก็จนด้วยเกล้าเหมือนกัน ฝากไปหาข้อมูลต่อด้วยแล้วกัน แต่ถ้าพูดถึงความงามก็ต้องบอกว่าอลังการสวยงามสมคำเล่าลือ
เมื่อท่านเดินมาถึงมาถึงท่านจะพบว่าด้านบนของน้ำตกจะมีพื้นที่ประมาณ 1 กิโลเมตร และค่อย ๆ หักเป็นมุมโค้ง คล้าย ๆ บรรไดวน 3 ขั้น เอียงลาดลดระดับลงไปเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก 11 เมตร และช่วงที่ 2 สูง 21 เมตร พร้อมมีรอยแยกอันเป็นทางเดินของน้ำกว้างประมาณ 20 เมตร ลึก 32 เมตร ยาวโดยรวมประมาณ 2.5 กิโลเมตร
ในช่วงหน้าร้อนน้ำเยอะหน่อย ความแรงของน้ำอยู่ที่ 140 ลูกบาศก์เมตรต่อ/ต่อวินาที แต่ในช่วงหน้าหนาวความแรงของน้ำจะลดลง เพราะว่าน้ำน้อยลง จะเหลืออยูที่ 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เคยมีช่วงที่น้ำเยอะ ๆ เคยวัดได้ถึง 2000 ลูกบาศก์ต่อวินาที จินตนาการไม่ออกว่าแรงขนาดไหน เพราะคงไม่คิดไปลงเล่นน้ำตกที่ไหลแรง ๆ และอากาศหนาว ๆ หรอกก็จินตนาการเอาเองแล้วกัน ในช่วงทศวรรษ 1920 เรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งมีฝรั่งหัวดีชาติอื่น (ไม่ใช่ไอซ์แลนด์) คิดที่จะเอาเจ้าน้ำตกนี่ไปเป็นเขื่อน ผลิตกระแสไฟฟ้า ก็ขอเช่าจากเจ้าของชาวไอซ์แลนด์ ที่ชื่อ นาย โธมัส โธมัสสัน (T?mas T?masson) และ นายฮัลโดร์ ฮันโดร์สัน(Halld?r Halld?rsson) เพื่อผลิตฟ้า แต่โครงการดังกล่าวต้องพับไปด้วยดำเนินการไม่ประสบผลสำเร็จ รวมทั้งการขาดเงินทุนเอามาหมุนว่างั้นเถอะ จนไม่ช้านานเจ้าน้ำตกทองคำแห่งนี้จึงได้ตกเป็นของแผ่นดิน โดยเจ้าของได้ขายให้รัฐ ประมาณว่าหาประโยชน์อะไรไม่ได้ก็ขายทิ้งเอาเงินมาหมุนเสียว่างั้น จากเจ้าน้ำตกธรรมชาติที่จะต้องถูกแปลงไปเขื่อน จึงได้กลายเป็นน้ำตกให้มาพี่น้องหมู่เฮาได้มายลโฉมกันอยู่ตรงหน้านี่แหละ
ส่วนราคาซิ้อไม่ทราบ และก็ยังสงสัยน่าประเทศไอซ์แลนด์กฏหมายว่าด้วย “ที่สาธารณะ” ยังมาไม่ถึง จึงได้มีการไปจับจองเป็นเจ้าของน้ำตก “ทองคำ” อันใหญ่แห่งนี้ ไว้เป็นของส่วนตัวได้ จนในที่สุดก็ถูกขายแนะ ไม่ได้ยกให้หรือออกกฏหมายยึดนะ “ขาย” ใครเอาของแผ่นแด่นไปขายให้พี่น้อง ระวังเจอคดีเหมือนรัชดานะครับ อีกเรื่องเป็นเรื่องเล่าเหมือนเคย คือ น้องสาวของอีตาโธมัส (T?mas T?masson) ที่ชื่อซิกกริดุร (Sigr??ur T?masd?ttir) คุณเธอเป็นนักอนุรักษ์ว่างั้นเถอะเห็นพี่ชายให้ฝรั่งต่างชาติเช่าจะผลิตกระแสไฟฟ้า คุณเธอก็หัวอนุรักษ์ขึ้นสมองปรี๊ด เลยขู่พี่ชายหรือเปล่าไม่แน่ใจ ด้วยการขู่จะโดดลงไปในน้ำตกทำนองฆ่าตัวตายอนุรักษ์ แต่ไม่รู้จะมีต้องมีอนุสาวรีย์แบบสืบ นาคะเสถียร ที่ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานีหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นที่โจทก์กันไปทั่วถึงวีรกรรมของเธอ แต่ก็สรุปจบของเรื่องคือไม่ใช่เรื่องจริง “เขาเล่าว่า” ฝรั่งก็มีเรื่อง “เขาเล่าว่า” เหมือนกัน แถมยังลือไม่แพ้พี่ไทยเหมือนกันนะ เพราะกว่าจะลือไปถึงกันได้คงใช้เวลานานเพราะอากาศหนาวกว่าจะเดินถึงกันสมัยก่อนคงใช้เวลานานโข...
Aข้อมูล https://www.watthaiiceland.net/