ข้อมูลเที่ยวกรีซ : เมือง Mykines และ Nafplio

ข้อมูลเที่ยวกรีซ เมือง Mykines และ Nafplio

ดินแดนในคาบสมุทรนี้หลายแห่งเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ การเดินทางมาดินแดนแถบนี้จะเห็นทางชี้บอกให้ไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์ตามเมืองต่างๆที่ผ่านมาอย่างเมือง Corinth ที่เคยรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยไมซีนีจนถึงยุคคลาสสิค(1500-500 ปีก่อนคริสตกาล) ปัจจุบันค่อนข้างเงียบและเต็มไปด้วยต้นไม้ปกคลุม แต่ยังพอมีร่องรอยของท่าเรือ โรงละคร และศูนย์การค้าและวัฒนธรรมที่ผู้คนมาชุมนุมกันซึ่งเรียกว่า Argo ให้ได้เห็นอยู่ เมืองนี้เป็นที่อยู่ของคนมีฐานะและอ่าวคอรินท์นี่เองเป็นที่ที่เฮเลนชายาของ Menelaus กษัตริย์แห่งสปาร์ตา ได้พาเจ้าชายปารีสชมเมืองและตกหลุมรักกัน จนเป็นเหตุให้เจ้าชายปารีสลักพาเฮเลนไป จนเกิดเป็นเรื่องราวยืดเยื้อของสงครามกรุงเทรอง (Trojan War)ปราสาท Palamidi วันจันทร์ – วันศุกร์ เปิดเวลา 0830-1900 น. วันเสาร์ อาทิตย์ เปิดเวลา 0830-1430 น . วันหยุดประจำปี 1 มกราคม/25 มีนาคม/Easter Sunday /1 พฤษภาคม/25-26 ธันวาคมแหล่งโบราณคดี Tiryns เดือนพฤษภาคม- ตุลาคม เปิดเวลา 0800-1900 น. เดือนพฤศจิกายน – เมษายน เปิดเวลา 0830-1500 น. วันหยุดประจำปี 1 มกราคม/25 มีนาคม/Easter Sunday /1 พฤษภาคม/25-26 ธันวาคมแหล่งโบราณคดี Mycenae เปิดทุกวัน เวลา 0800- 1900 น.  วันหยุดประจำปี 1 มกราคม/25 มีนาคม/Easter Sunday /1 พฤษภาคม/25-26 ธันวาคมการเดินทาง รถโดยสารออกจากรุงเอเธนส์เวลา 0600 น. และตั้งแต่เวลา 0730-1930 น . รถออกทุกชั่วโมง เที่ยวสุดท้ายออกเวลา 2100 น. ค่าโดยสารไปเมือง Mykines 7.05 ยูโร และเมือง Nafplio 10.10 ยูโร ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 30 นาทีมรดกโลกทางด้านฝั่งตะวันตกของคาบสมุทร Peloponnese นั้นคือแหล่งโบราณคดี Epidaurus , Mycenae และ Tiryns  ขอแนะนำให้คุณเลือกเมือง Nafplio เป็นที่พักในการเที่ยวชมแหล่งโบราณคดีต่างๆเพระเมืองนี้อยู่ตรงกลางระหว่างแหล่งโบราณคดีสำคัญๆที่คุณสามารถเช่ารถไปได้และยังเป็นเมืองตากอากาศที่มีเสน่ห์และโรแมนติกมากๆเมืองหนึ่งด้านหน้าของเมือง Nafplio เป็นเหมือนอ่าวขนาดใหญ่ มีร้านกาแฟและร้านอาหารคึกคักด้วยผู้คนที่แวะเวียนไปชมวิวป้อมปราสาท Bourtzi ที่เหมือนปราสาทลอยน้ำอยู่ทางด้านหน้า สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1471 ปราสาทแห่งนี้เคยเปิดให้บริการในฐานะโรงแรมในช่วงปี ค.ศ. 1930-1970 มีเรือบริการไปยังปราสาท ค่าโดยสาร 4 ยูโร ในวันหยุดคนเอเธนส์จะมาเที่ยวที่นี่กันมากมาย แม้ในฤดูหนาวก็ตาม ดังนั้นบริเวณด้านหน้าท่าเรือจึงมีพ่อค้าเร่มาขายของต่างๆ  ส่วนด้านในเมืองนั้นจะมีต้นส้มและต้นมะนาวปลูกตามถนนเล็กๆที่เป็นถนนคนเดินเต็มไปหมด บ้านเรือนเก่าเรียงสลับกับร้านค้าสมัยใหม่ที่ตกแต่งด้วยสีสันน่ารัก ทุกตรอกซอกซอยน่าเดินเล่น แต่ย่านร้านค้าเยอะๆจะอยู่รอๆจัตุรัส Syntagma Square กลางเมือง ทางเดินปูด้วยหินอ่อนอย่างดี มีโบสถ์เก่าตั้งตระหง่านอยู่ มองผ่านไปด้านบนจะเห็นฉากหลัลเป็นภูเขาสูงที่มีปราสาทขนาดใหญ่อยู่นั้นคือปราสาท Palamidi ถ้าร่างกายแข็งแรงพอ ขอให้คุณเดินขึ้นปราสาทแห่งนี้ซึ่งต้องไต่บันไดถึง 999 ขึ้น ถ้าเดินไม่ไหวสามารถเรียกแท็กซี่ให้ขึ้นไปส่งได้ เพราะอีกด้านของปราสาทมีทางสำหรับรถวิ่ง ตัวปราสาทตั้งอยู่บนเขาสูง 216 เมตร แม้จะสูงแค่ไหนในปราสาทก็ยังมีโบสถ์เล็กๆชื่อว่า Agios Andreas แสดงให้เราเห็นถึงความศรัทธาของผู้คน จากด้านบนปราสาทเมื่อมองลงมาจะเห็นชัดเจนว่าเมือง Nafplio เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลสีสวย และด้านหลังของเมืองก็ยังมีกำแพงป้อมAkronafplio เป็นแนวยาว ทำให้เมืองนี้เหมือนเมืองในนิทานที่โอบล้อมไปด้วยป้อมและปราสาท เมือง Nafplio เป็นเมืองที่มีจุดยุทธศาสตร์ที่ดีมาก สมัยที่เวนิชปกครองกรีซ จึงตั้งให้เมืองนี้เป็นเมืองหลวงในส่วนของแผ่นดินใหญ่และเมื่อกรีซได้สถาปนาขึ้นเป็นประเทศเมื่อปี ค.ศ. 1828 เมือง Nafplio ก็ได้เป็นเมืองหลวงนาน 5 ปีก่อนจะย้ายไปที่กรุงเอเธนส์แหล่งโบราณคดี Mycenae ปัจจุบันตั้งอยู่ที่เมือง Mykines ห่างจาก เมือง Nafplioไป 15-20 กิโลเมตร สถานที่นี้ถือเป็นสุสานของราชวงศ์ เนื่องจากพบหลุมฝังศพของ Agamemnon และกษัตริย์องค์อื่นๆแม้แหล่งโบราณคดีแห่งนี้จะหลบซ่อนภายใต้เงาของขุนเขาแต่ Heinrich Schilemann ก็ยังสามารถค้นพบและขุดเอาทรัพย์สมบัติจำนวนมากขึ้นมาจากหลุมฝังศพตั้งแต่ยุคไมซีนีได้ ลักษณะหลุมฝังศพทำจากหินที่ก่อตัวขึ้นเป็นรูปโดมโดยครอบครัวเดียวกันจะฝังไว้ด้วยกัน ภายในเขตด้านในหลังประตูสิงโต พบหลุมศพของราชวงศ์มากถึงหกหลุมบ้านเรือนในยุคนั้น ห้องเก็บของ และอื่นๆส่วนด้านนอกพบหลุมฝังศพของผู้คนต่างๆที่หลายหลุมจะมีสมบัติทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งของโบราณมีค่าเหล่านี้ที่ส่วนใหญ่ทำจากทองตั้งโชว์อยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติทางโบราณคดีNational Archaeological Museum ที่กรุงเอเธนส์  แต่ที่สำคัญทุกคนล้วนอยากเดินผ่านประตู Lion Gate ที่เชื่อกันว่าหลังจากที่กองทัพไมซีนีเอาชนะกรุงทรอยได้แม่ทัพต่างๆได้ผ่านประตูนี้เข้าเมืองเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ