ข้อมูลเที่ยวเนปาล : ดวงตาแห่ง.. เนปาล
ดวงตาแห่ง.. เนปาล
ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนในกรุงกาฐมัณฑุของเนปาล บางทีคุณอาจจะรู้สึกเหมือนมีสายตาคอยจับจ้องคุณอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในที่โล่งหรือในห้องที่ปิดมิดชิดไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ที่ไหน... คุณจะไม่อาจลอดพ้นสายตาวิเศษนี้ไปได้ สายตาจากดวงตาแห่งเนปาล.. "ดวงตาแห่งธรรม"
ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงไหนในกรุงกาฐมัณฑุ บางทีคุณอาจจะรู้สึกได้ยินเสียงที่แว่วลอยอยู่ในอากาศ ไม่ว่าจะอยู่ในที่โล่งหรือในห้องที่ปิดมิดชิด ไม่ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ที่ไหนในเนปาล... คุณจะได้ยินเสียงแห่งการภาวนา "โอม มณี ปัทเม หุม" "โอม มณี ปัทเม หุม" "โอม มณี ปัทเม หุม"
ดวงตาแห่งพุทธะ คือ ดวงตาของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ที่อยู่ทั้งสี่ด้านของยอดเจดีย์ที่มีอยู่มากมายทั่วเนปาล เปรียบเสมือนดวงตาของผู้เห็นธรรมที่คอยเฝ้ามองความเป็นไปของชาวเนปาลด้วยความปรานีจนไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนในเนปาลเราก็เหมือนจะหนีไม่พ้นสายตาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธไปได้เลย นอกจากเนปาลจะเป็นศูนย์กลางของชาวฮินดูแล้ว ชาวเนปาลส่วนหนึงก็ยังนับถือศาสนาพุทธนิกาย "วัชรญาณ" หรือตันตระ เช่นเดียวกับธิเบตและยังคงนับถือองค์ทะไลลามะเป็นประมุขสูงสุดทางศาสนาและจิตวิญญาณ วัชรญาณ ซึ่งหมายถึงญาณสายฟ้านั่นคือญาณที่คมประดุจเพชรอันเป็นเครื่องตัดอวิชชา พุทธศาสนานิกายวัชรยานมีความเชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีหลายองค์ และยังนับถือพระโพธิสัตว์ อันเป็นผู้บำเพ็ญเพียรจนถึงพุทธภูมิแล้วแต่ยังยั้งจิตไว้ไม่เข้าสู่นิพพานทั้งนี้เพื่อคอยช่วยเหลือสัตว์โลก ให้พ้นวัฏสงสารอย่างเช่น องค์พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือเจ้าแม่กวนอิมที่เรารู้จักกันดีนั่นเอง ชาวพุทธในเนปาลรวมถึงธิเบตที่นับถือวัชรญาณจะสวดมนต์ภาวนาอยู่แทบจะตลอดทุกลมหายใจทั้งยังมีธงคำสวดที่จะแขวนโยงเพื่อเร่งให้สายลมพัดปลิวคำสวดคำภาวนาให้ล่องลอยไปถึงสวรรค์และยังมีกงล้อคำสวดพระคาถาที่เดินไปไหนมาไหนก็ต้องแกว่งให้หมุนคำสวดไปเรื่อยโดยมีหัวใจแห่งคำสวด ที่กล่าวว่า..."โอม มณี ปัทเม หุม"
"โอม มณี ปัทเม หุม"ถ้าแปลตรงตัวคงแปลได้ว่า "โอ..ดวงมณีในดอกบัว"หรืออย่างที่ชาวจีนออกเสียงว่า "โอม มา นี แปะ หมี่ ฮง" มณีแห่งดอกบัวหรือหัวใจที่เบิกบาน ใจที่สะอาด สว่าง หลุดพ้น จากเครื่องพันธนาการหลุดพ้นจากกิเลสที่ร้อยรัดให้เศร้าหมอง มณีแห่งปัญญาคือดอกบัวสว่างที่กลางใจมณีนี้ คือ ใจของเรา ดอกบัวคืออาสนะอันบริสุทธิ์ดังนั้นผู้ที่ภาวนาพระคาถานี้อยู่เนือง ๆ ย่อมเป็นผู้ที่มีแก้วสารพัดนึกที่จะเป็นอาสนะอันวิเศษซึ่งจะนำพาให้ไปถึงนิพพานโลกธาตุได้ในที่สุด